พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/205/388 389 390

สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
เล่ม 14
หน้า 205
๕. ทันตภูมิสูตร (๑๒๕)
[๓๘๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารเวฬุวัน อันเคยเป็นสถานที่พระราชทาน เหยื่อแก่กระแต เขตพระนครราชคฤห์ สมัยนั้นแล สมณุทเทสอจิรวตะอยู่ในกระท่อมในป่า ครั้งนั้น พระราชกุมารชยเสนะ ทรงพระดำเนิน ทอดพระชงฆ์เที่ยวเล่นไปโดยลำดับ เข้าไปหา สมณุทเทสอจิรวตะถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้ตรัสทักทายปราศรัยกับสมณุทเทสอจิรวตะ ครั้นผ่าน คำทักทายปราศรัย พอให้ ระลึกถึงกันไปแล้ว ได้ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ
[๓๘๙] พระราชกุมารชยเสนะ พอประทับนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้รับสั่งกะสมณุทเทส อจิรวตะดังนี้ว่า ข้าแต่ท่านอัคคิเวสสนะผู้เจริญ ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้ว่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร ส่งตนไปในธรรมอยู่พึงสำเร็จเอกัคคตาแห่งจิตได้ ฯ สมณุทเทสอจิรวตะถวายพระพรว่า ดูกรพระราชกุมาร ข้อนั้นถูกต้องแล้วๆ ภิกษุใน ธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร ส่งตนไปในธรรมอยู่พึงสำเร็จเอกัคคตาแห่ง จิตได้ ฯ ช. ดีแล้ว ขอท่านอัคคิเวสสนะโปรดแสดงธรรมตามที่ได้สดับ ตามที่ได้ศึกษามาแก่ ข้าพเจ้าเถิด ฯ
[๓๙๐] อ. ดูกรพระราชกุมาร อาตมภาพไม่อาจจะแสดงธรรมตามที่ได้ สดับ ตามที่ได้ ศึกษามาแก่พระองค์ได้ เพราะถ้าอาตมภาพพึงแสดงธรรมตามที่ได้ สดับ ตามที่ได้ศึกษามาแก่ พระองค์ และพระองค์ไม่ทรงทราบอรรถแห่งภาษิตของอาตมภาพได้ ข้อนั้นจะเป็นความยาก จะ เป็นความลำบากของอาตมภาพ ฯ ช. ขอท่านอัคคิเวสสนะโปรดแสดงธรรมตามที่ได้สดับ ตามที่ได้ศึกษามาแก่ข้าพเจ้าเถิด บางทีข้าพเจ้าจะพึงทราบอรรถแห่งภาษิตของท่านอัคคิเวสสนะได้ ฯ