พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/21/20
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
พ. ดูกรอานนท์ ชาววัชชีจักสักการะ เคารพ นับถือ บูชา เจติยสถาน ของชาววัชชี
ทั้งภายในภายนอก และจักไม่ลบล้างพลีกรรมอันชอบธรรมซึ่งเคยให้ เคยทำแก่เจติยสถาน
เหล่านั้น เพียงใด ชาววัชชีพึงหวังความเจริญได้แน่นอนไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น
ดูกรอานนท์ เธอได้สดับมาดังนี้หรือว่าชาววัชชีถวายความอารักขา ความคุ้มครอง ป้องกัน
อันชอบธรรม ในพระอรหันต์ทั้งหลาย เป็นอย่างดี ด้วยหวังว่า ไฉนพระอรหันต์ทั้งหลายที่ยัง
ไม่มา พึงมาสู่แว่นแคว้น และที่มาแล้วพึงอยู่เป็นสุข ฯ
อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับมาว่า ชาววัชชีจักถวายความอารักขา
ความคุ้มครอง ป้องกัน อันชอบธรรมในพระอรหันต์ทั้งหลายเป็นอย่างดี ด้วยหวังว่า ไฉน
พระอรหันต์ทั้งหลายที่ยังไม่มา พึงมาสู่แว่นแคว้นและที่มาแล้วพึงอยู่เป็นสุข พระเจ้าข้า
พ. ดูกรอานนท์ ชาววัชชีจักถวายความอารักขา ความคุ้มครอง ป้องกันอันชอบธรรม
ในพระอรหันต์ทั้งหลาย เป็นอย่างดี ด้วยหวังว่า ไฉนพระอรหันต์ทั้งหลายที่ยังไม่มา จงมาสู่
แว่นแคว้น ที่มาแล้วพึงอยู่เป็นสุข เพียงใด ชาววัชชีพึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวัง
ความเสื่อมเลย เพียงนั้น ฯ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสกะวัสสการพราหมณ์มหาอำมาตย์แห่งแคว้นมคธว่า ดูกร
พราหมณ์ สมัยหนึ่ง เราอยู่ ณ สารันททเจดีย์ ใกล้พระนครเวสาลี ณ ที่นั้น เราได้แสดง
อปริหานิยธรรม ๗ ประการนี้ แก่เจ้าวัชชีว่า ดูกรพราหมณ์ อปริหานิยธรรม ๗ ประการนี้
จักตั้งอยู่ในชาววัชชี และชาววัชชีจักปรากฏอยู่ในอปริหานิยธรรม ๗ ประการนี้ เพียงใด ชาววัชชี
พึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น ฯ
วัสสการพราหมณ์กราบทูลว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ชาววัชชีประกอบด้วยอปริหานิย
ธรรมแม้แต่ละอย่าง ก็พึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย จะกล่าวไย
ถึงชาววัชชีผู้ประกอบด้วยอปริหานิยธรรม ๗ ประการเล่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อนึ่ง ชาววัชชี
อันพระเจ้าแผ่นดินมคธพระนามว่าอชาตสัตรูเวเทหีบุตร ไม่พึงทำการต่อยุทธด้วยได้ เว้นเสียจาก
การเกลี้ยกล่อมเว้นเสียจากการยุยงให้แตกกัน ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์ผู้มีกิจมาก
มีกรณีย์มาก ขอกราบลาไป ณ บัดนี้ ฯ