พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/211/139
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
ให้ถูกใจ กล่าวถ้อยคำเป็นที่รัก ฯลฯ เป็นผู้มีการบริจาค มีใจปราศจากมลทิน คือ ความตระหนี่
อยู่ครองเรือน มีจาคะอันปล่อยแล้ว มีฝ่ามืออันชุ่ม ยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีใน
การจำแนกทาน ดูกรนกุลมารดา มาตุคามประกอบด้วยธรรม ๘ ประการนี้แล เมื่อตายไป
ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาเหล่ามนาปกายิกา ฯ
สุภาพสตรีผู้มีปรีชา ย่อมไม่ดูหมิ่นสามี ผู้หมั่นเพียร
ขวนขวายอยู่เป็นนิตย์ เลี้ยงตนอยู่ทุกเมื่อ ให้ความปรารถนา
ทั้งปวง ไม่ยังสามีให้ขุ่นเคือง ด้วยถ้อยคำแสดงความ
หึงหวง และย่อมบูชาผู้ที่เคารพทั้งปวงของสามี เป็นผู้ขยัน
ไม่เกียจคร้าน สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามี ประพฤติ
เป็นที่พอใจของสามี รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ นารีใดย่อม
ประพฤติตามความชอบใจของสามีอย่างนี้ นารีนั้นย่อมเข้าถึง
ความเป็นเทวดา เหล่ามนาปกายิกา ฯ
จบสูตรที่ ๙
อิธโลกสูตรที่ ๑
[๑๓๙] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทของมิคารมารดา ในบุพพาราม
ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล นางวิสาขามิคารมารดาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะนางวิสาขามิคารมารดาว่า
ดูกรวิสาขา มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกนี้
ชื่อว่าปรารภโลกนี้แล้ว ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้ เป็นผู้
จัดการงานดี ๑ สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามีดี ๑ ประพฤติเป็นที่พอใจของสามี ๑ รักษาทรัพย์
ที่สามีหามาได้ ๑ ดูกรวิสาขา มาตุคามเป็นผู้จัดการงานดีอย่างไร ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้
เป็นคนขยัน ไม่เกียจคร้านในการงานภายในบ้านของสามี คือ การทำผ้าขนสัตว์หรือการทำผ้าฝ้าย
ประกอบด้วยปัญญาเครื่องพิจารณาอันเป็นอุบายในการงานนั้น อาจทำ อาจจัดได้ ดูกรวิสาขา
มาตุคามเป็นผู้จัดการงานดีอย่างนี้แล ฯ