พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/214/268 269 270
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
[๒๖๘] ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ประการที่ห้าอย่างนี้ว่า
หากเราจุติจากกายมนุษย์แล้ว ละอายุอันเป็นของ มนุษย์แล้ว จักกลับเป็นเทวดาอีก
จักเป็นผู้สูงสุดในเทวโลก ดังนี้ จึงประกาศการได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส
เห็นปานนี้ ฯ
[๒๖๙] ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ประการที่หกอย่างนี้ว่า
พวกเทวดาชั้นอกนิฏฐาเหล่านั้นเป็นผู้ประณีตกว่า มียศ เมื่อภพที่สุดเป็นไปอยู่ นิวาส
นั้นจักเป็นของเรา ดังนี้ จึงประกาศการได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็น
ปานนี้ ฯ
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เห็นอำนาจประโยชน์ หกประการนี้แล
จึงประกาศการได้รับความยินดี การได้รับความโสมนัส เห็นปานนี้ ฯ
[๒๗๐] ข้าพระองค์มีความดำริยังไม่ถึงที่สุด ยังมีความสงสัย เคลือบแคลง
เที่ยวเสาะแสวงหาพระตถาคตอยู่ตลอดกาลนาน ข้าพระองค์สำคัญ
สมณะเหล่าใด ซึ่งเป็นผู้มีปรกติอยู่เงียบสงัด เข้าใจว่าเป็นพระสัมพุทธ
เจ้า ได้เข้าไปหาสมณะเหล่านั้น ท่าน เหล่านั้นถูกข้าพระองค์ถามว่า
ความพอใจเป็นอย่างไร ความไม่พอใจเป็นอย่างไร ก็หาชี้แจงในมรรค
และข้อปฏิบัติไม่ ในเวลาที่ท่านเหล่านั้นรู้ข้าพระองค์ว่า เป็นสักกะมา
จากเทวโลก จึงถามข้าพระองค์ทีเดียวว่า ท่านทำอะไรจึงได้ลุถึงฐานะนี้
ข้าพระองค์จึงแสดงธรรมตามที่ฟังมา แก่ท่านเหล่านั้น ให้ปรากฏในหมู่
ชน ท่านเหล่านั้นมีความพอใจด้วยเหตุเพียงเท่านี้ว่า พวกเราได้เห็น
ท้าววาสวะแล้ว ในเวลาใด ข้าพระองค์ได้เห็น พระสัมพุทธเจ้า ผู้ข้าม
ความส งสัยได้แล้ว ในเวลานั้น ข้าพระองค์เป็นผู้ปราศจากความกลัว
วันนี้ ได้เข้ามานั่งใกล้ พระสัมพุทธเจ้าแล้ว ข้าพระองค์ขอถวายบังคม
พระพุทธเจ้า ผู้ทรงกำจัดเสียได้ซึ่งลูกศรคือตัณหา ซึ่งหาบุคคลเปรียบ
มิได้เป็น มหา วีระ เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นเผ่าพันธุ์ พระอาทิตย์ ข้าแต่
พระองค์ผู้นิรทุกข์ ข้าพระองค์กับพวกเทวดากระทำความนอบน้อมอันใด
แก่พรหม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าพระองค์ขอถวาย ความนอบน้อมนั้น
แด่พระองค์ ข้าพระองค์ขอทำความนอบน้อมแด่พระองค์ด้วยตนเอง