พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/217/141
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในกรุงกบิลพัสดุ์ ตามพระประสงค์ แล้วเสด็จ
จาริกไปทางพระนครเวสาลี เมื่อเสด็จจาริกไปโดยลำดับ เสด็จไปถึงพระนครเวสาลี ได้ยินว่า
ณ ที่นั้นพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่กูฏาคารศาลาป่ามหาวัน ใกล้พระนครเวสาลี ครั้งนั้น พระ
นางมหาปชาบดีโคตมีทรงปลงพระเกศาแล้ว ทรงครองผ้ากาสาวพัสตร์ เสด็จไปทางพระนครเวสาลี
พร้อมกับเจ้าหญิงสากิยะหลายพระองค์ เสด็จเข้าไปยังกูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน ใกล้พระนคร
เวสาลีโดยลำดับ พระนางมหาปชาบดีโคตมีทรงมีพระบาทระบม มีพระกายเต็มด้วยละออง มีทุกข์
เสียพระทัย มีพระพักตร์นองด้วยน้ำพระเนตร ทรงกันแสงอยู่ประทับยืนอยู่ ณ ซุ้มประตูด้าน
นอก ท่านพระอานนท์ได้แลเห็นพระนางมหาปชาบดีโคตมีทรงมีพระบาทระบม มีพระกายเต็มด้วย
ละออง มีทุกข์ เสียพระทัย มีพระพักตร์นองด้วยน้ำพระเนตร ทรงกันแสง ประทับยืนอยู่ ณ
ซุ้มประตูด้านนอก ครั้นเห็นแล้ว จึงกล่าวความข้อนี้กะพระนางว่า ดูกรพระนางโคตมี เพราะ
เหตุอะไรหนอ พระนางจึงมีพระบาทระบม มีพระกายเต็มด้วยละออง มีทุกข์ เสียพระทัย มี
พระพักตร์นองด้วยน้ำพระเนตร ทรงกันแสง ประทับยืนอยู่ ณ ซุ้มประตูด้านนอก พระนาง
มหาปชาบดีโคตมีตรัสตอบว่า ข้าแต่ท่านพระอานนท์ ความจริงก็เป็นเช่นนั้น พระผู้มีพระภาค
ไม่ทรงอนุญาตให้มาตุคามออกบวชเป็นบรรพชิตในธรรมวินัยที่พระตถาคตทรงประกาศแล้ว ท่าน
พระอานนท์กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นขอเชิญพระนางรออยู่ที่นี้แหละ ตราบเท่าที่อาตมภาพทูลขอพระผู้มี
พระภาคให้มาตุคามออกบวชเป็นบรรพชิตในธรรมวินัยนี้ ฯ
ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระนาง
มหาปชาบดีโคตมีนี้ ทรงมีพระบาทระบมมีพระกายเต็มด้วยละออง มีทุกข์ เสียพระทัย มี
พระพักตร์นองด้วยน้ำพระเนตรทรงกันแสง ประทับยืนอยู่ ณ ซุ้มประตูด้านนอก เพราะพระผู้
มีพระภาคไม่ทรงอนุญาตให้มาตุคามออกบวชเป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่พระตถาคตทรงประกาศ
แล้ว ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ขอให้มาตุคามพึงได้ออกบวชเป็นบรรพชิต
ในธรรมวินัยที่พระตถาคตทรงประกาศแล้วเถิด พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ อย่าเลย
เธออย่าชอบใจให้มาตุคามออกบวชเป็นบรรพชิตในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้วเลย ฯ