พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/218/705 706 707 708 709

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เล่ม 15
หน้า 218
นวกรรมิกสูตรที่ ๗
[๗๐๕] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ไพรสณฑ์แห่งหนึ่งในแคว้นโกศล ฯ สมัยหนึ่ง นวกรรมิกภารทวาชพราหมณ์ให้คนทำงานอยู่ในไพรสณฑ์นั้นเขาได้เห็น พระผู้มีพระภาคซึ่งประทับนั่งคู้บัลลังก์ (นั่งขัดสมาธิ) ตั้งพระกายตรงดำรงพระสติไว้เฉพาะหน้า ที่โคนสาลพฤกษ์ต้นหนึ่ง ครั้นเห็นแล้ว เขามีความคิดว่า เราให้คนทำงานอยู่ในไพรสณฑ์นี้จึง ยินดี ส่วนพระสมณะนี้ ให้คนทำอะไรอยู่จึงยินดี ฯ
[๗๐๖] ลำดับนั้น นวกรรมิกภารทวาชพราหมณ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า ข้าแต่ท่านภิกษุ ท่านทำงานอะไรหรือ จึงอยู่ในป่าสาลพฤกษ์ พระโคดม อยู่ในป่าผู้เดียว ได้ความยินดีอะไร ฯ
[๗๐๗] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เราไม่มีกรณียกิจในป่าดอก เพราะเราถอนรากเง่าป่า อันเป็นข้าศึก เสียแล้ว เราไม่มีป่าคือกิเลส ปราศจากลูกศรคือกิเลสละความกระสัน เสียแล้ว จึงยินดีอยู่ผู้เดียวในป่า ฯ
[๗๐๘] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสเช่นนี้แล้ว นวกรรมิกภารทวาชพราหมณ์ได้กราบทูล พระผู้มีพระภาคว่า ท่านพระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนักท่านพระโคดม ภาษิตของ พระองค์แจ่มแจ้งนัก พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย ดุจหงายภาชนะที่คว่ำ เปิดของ ที่ปิดไว้ บอกทางแก่คนหลงทางส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่า คนมีจักษุจะมองเห็นรูปได้ ข้าแต่ท่านพระโคดมข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาคกับพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ขอพระองค์จงทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป ฯ กัฏฐหารสูตรที่ ๘
[๗๐๙] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ไพรสณฑ์แห่งหนึ่งในแคว้นโกศล โน้น ฯ