พระสุตตันตปิฎกไทย: 24/224/156
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
ชานุสโสณีวรรคที่ ๒
ปัจโจโรหณีสูตรที่ ๑
[๑๕๖] ก็โดยสมัยนั้นแล ชานุสโสณีพราหมณ์สนานเกล้าในวันอุโบสถนุ่งห่มผ้าไหม
ทั้งคู่อันใหม่ ถือกำหญ้าคาสดไปยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค
พระผู้มีพระภาคได้ทอดพระเนตรเห็นชานุสโสณีพราหมณ์ผู้สนานเกล้าในวันอุโบสถ นุ่งห่มผ้า
ไหมทั้งคู่อันใหม่ ถือกำหญ้าคาสดยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งที่ไม่ไกล ครั้นแล้วได้ตรัสถาม
ชานุสโสณีพราหมณ์ว่า ดูกรพราหมณ์ เพราะเหตุไรหนอ ท่านจึงสนานเกล้าในวันอุโบสถ
นุ่งห่มผ้าไหมทั้งคู่อันใหม่ ถือกำหญ้าคาสดมายืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง วันนี้เป็นวันอะไร
ของสกุลพราหมณ์ ชานุสโสณีพราหมณ์กราบทูลว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ วันนี้เป็นวัน
ปลงบาปของสกุลพราหมณ์ ฯ
พ. ดูกรพราหมณ์ ก็พิธีปลงบาปของพราหมณ์ทั้งหลายย่อมมีด้วยประการไรเล่า ฯ
ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พราหมณ์ทั้งหลายในโลกนี้ ในวันอุโบสถสนานเกล้า
นุ่งห่มผ้าไหมทั้งคู่อันใหม่ ทาแผ่นดินด้วยโคมัยสด ลาดด้วยหญ้าคาทั้งหลายที่เขียวสดแล้ว
สำเร็จการนอนในระหว่างกองทรายและเรือนไฟ ในราตรีนั้น พราหมณ์เหล่านั้นย่อมลุกขึ้น
ประนมอัญชลีนมัสการไฟ ๓ ครั้ง ด้วยการกล่าวว่า ข้าพเจ้าขอปลงบาปกะท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้า
ขอปลงบาปกะท่านผู้เจริญ ดังนี้และย่อมยังไฟให้อิ่มหนำด้วยเนยใส น้ำมันและเนยข้นอัน
เพียงพอ พอล่วงราตรีนั้นไป ย่อมเลี้ยงพราหมณ์ทั้งหลายให้อิ่มหนำด้วยขาทนียโภชนียาหารอัน
ประณีตข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พิธีปลงบาปของพราหมณ์ทั้งหลาย ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้แล ฯ
พ. ดูกรพราหมณ์ พิธีปลงบาปของพราหมณ์ทั้งหลาย ย่อมมีโดยประการอย่างอื่น ส่วนพิธี
ปลงบาปในวินัยของพระอริยะ ย่อมมีโดยประการอย่างอื่น ฯ
ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พิธีปลงบาปในวินัยของพระอริยะย่อมมีโดยประการใดเล่า
ขอประทานพระวโรกาส ขอพระโคดมผู้เจริญ โปรดทรงแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์ตามพิธีปลงบาปใน
วินัยของพระอริยะด้วยเถิด ฯ