พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/229/389 390
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
๓ คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนาดูกรภิกษุทั้งหลาย เวทนา ๓ นี้แล ไม่เที่ยง
อันปัจจัยปรุงแต่ง อาศัยปัจจัยเกิดขึ้น มีความสิ้นไป เสื่อมไป คลายไป ดับไปเป็นธรรมดา ฯ
จบสูตรที่ ๙
ผัสสมูลกสูตร
[๓๘๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เวทนา ๓ นี้เกิดแต่ผัสสะ มีผัสสะเป็นมูล มีผัสสะเป็น
เหตุ มีผัสสะเป็นปัจจัย เวทนา ๓ เป็นไฉน เวทนา ๓ คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา
อทุกขมสุขเวทนา ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะอาศัยผัสสะอันเป็นปัจจัยแห่ง
สุขเวทนา ความเสวยอารมณ์ที่เกิดแต่ผัสสะนั้น ชื่อว่าสุขเวทนา เกิดขึ้นเพราะอาศัยผัสสะ
อันเป็นที่ตั้งแห่งสุขเวทนานั้น ย่อมดับไปสงบไป เพราะผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งสุขเวทนานั้นแล
ดับไป ดูกรภิกษุทั้งหลายทุกขเวทนาย่อมเกิดขึ้น เพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกขเวทนา
ความเสวยอารมณ์ อันเกิดแต่ผัสสะนั้น ชื่อว่าทุกขเวทนา เกิดขึ้นเพราะอาศัยผัสสะ อันเป็น
ตั้งแห่งทุกขเวทนานั้น ย่อมดับไป สงบไป เพราะผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกขเวทนานั้นแล
ดับไป อทุกขมสุขเวทนา ย่อมเกิดขึ้น เพราะอาศัยผัสสะอัน เป็นที่ตั้งแห่งอทุกขมสุขเวทนา
ความเสวยอารมณ์อันเกิดแก่ผัสสะนั้น ชื่อว่าอทุกขมสุขเวทนา เกิดขึ้นเพราะอาศัยผัสสะอัน
เป็นที่ตั้งแห่งอทุกขมสุขเวทนานั้นย่อมดับไป สงบไป เพราะผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งอทุกขมสุข
เวทนานั้นแลดับไป ฯ
[๓๙๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะไม้สองอันเสียดสีกัน เพราะการเสียดสีกันจึงเกิดไออุ่น
จึงเกิดไฟ เพราะแยกไม้สองอันนั้นแหละออกจากกันไออุ่นที่เกิดเพราะการเสียดสีนั้นย่อมดับ
ไป สงบไป ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย เวทนา ๓ นี้ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล เกิดแต่ผัสสะ มี