พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/236/754 755 756
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
พระศาสดาพึงบรรลุ คุณอันนั้นทุกอย่างอันพระโกณฑัญญะเถระนั้น
เป็นผู้ไม่ประมาทศึกษาอยู่บรรลุแล้วโดยลำดับ พระโกณฑัญญะเถระ
เป็นผู้มีอานุภาพมาก เป็นผู้ได้วิชชา ๓ เป็นผู้ฉลาดในเจโตปริยญาณ
เป็นทายาทของพระพุทธองค์ ไหว้อยู่ซึ่งพระบาททั้งสองของพระศาสดา
ดังนี้ ฯ
โมคคัลลานสูตรที่ ๑๐
[๗๕๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับ ณ กาฬสิลา ข้างภูเขาอิสิคิลิ เขตพระนคร
ราชคฤห์ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป ล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด ฯ
ได้ยินว่า ท่านพระมหาโมคคัลลานะตามพิจารณาจิตอันหลุดพ้นพิเศษ (จากกิเลส)
อันหาอุปธิมิได้ ของภิกษุเหล่านั้นด้วยจิตอยู่ ฯ
[๗๕๕] ครั้งนั้นแล ท่านพระวังคีสะมีความคิดดังนี้ว่า พระผู้มีพระภาคนี้แลประทับที่
กาฬสิลา ข้างภูเขาอิสิคิลิ เขตกรุงราชคฤห์ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ประมาณ ๕๐๐ รูป
ล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด ท่านพระมหาโมคคัลลานะก็ตามพิจารณาจิตอันหลุดพ้นพิเศษ (จาก
กิเลส) อันหาอุปธิมิได้ของภิกษุเหล่านั้นด้วยจิตอยู่ อย่ากระนั้นเลย เราพึงชมเชยท่านพระมหา
โมคคัลลานะเฉพาะพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาทั้งหลายอันสมควรเถิด ฯ
ครั้งนั้นแล ท่านพระวังคีสะลุกขึ้นจากอาสนะ ทำผ้าห่มเฉวียงบ่าข้างหนึ่งประนมอัญชลี
ไปทางที่พระผู้มีพระภาคประทับแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค
เนื้อความนี้ย่อมแจ่มแจ้งกะข้าพระองค์ ข้าแต่พระสุคต เนื้อความนี้ย่อมแจ่มแจ้งกะข้าพระองค์ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เนื้อความนั่นจงแจ่มแจ้งกะเธอเถิด วังคีสะ ฯ
[๗๕๖] ครั้งนั้นแล ท่านพระวังคีสะ ได้ชมเชยท่านพระมหาโมคคัลลานะเฉพาะ
พระพักตร์พระผู้มีพระภาคด้วยคาถาทั้งหลายอันสมควรว่า
พระสาวกทั้งหลายผู้สำเร็จไตรวิชชา ผู้ละมฤตยูเสียได้ ย่อมนั่งห้อมล้อม
พระมุนี ผู้ถึงฝั่งแห่งทุกข์ ซึ่งประทับนั่งอยู่ที่ข้างแห่งภูเขา พระมหา
โมคคัลลานะผู้มีฤทธิ์มาก ย่อมสอดส่องพระสาวกเหล่านั้นด้วยจิต ตาม
พิจารณาจิตอันหลุดพ้นพิเศษแล้ว อันหาอุปธิมิได้ของพระสาวกเหล่านั้น