พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/240/274
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
พระสูตรที่ไม่นับเป็นปัณณาสก์
[๒๗๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการควรเจริญ เพื่อความรู้ยิ่งราคะ ๔ ประการ
เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย มีความเพียร
มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ๑ ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา...๑
ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิต...๑ ย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรม มีความเพียรมีสัมปชัญญะ มีสติ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ๑ ธรรม ๔ประการนี้ ควรเจริญเพื่อรู้ยิ่งราคะ ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการควรเจริญเพื่อรู้ยิ่งราคะ ๔ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
ในธรรมวินัยนี้ย่อมยังฉันทะให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร ประคองจิต ตั้งจิตไว้ เพื่อไม่ให้
อกุศลบาปธรรมที่ยังไม่เกิดเกิดขึ้น ๑ ... เพื่อละอกุศลบาปธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ๑ เพื่อให้กุศลที่ยังไม่
เกิดเกิดขึ้น ๑ ย่อมยังฉันทะให้เกิด พยายามปรารภความเพียร ประคองจิต ตั้งจิตไว้ เพื่อความ
ตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือนเพื่อความมียิ่ง เพื่อความไพบูลย์ เพื่อความเจริญ เพื่อความบริบูรณ์ แห่ง
กุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ๑ ธรรม ๔ ประการนี้ ควรเจริญเพื่อรู้ยิ่งราคะ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔
ประการ ควรเจริญเพื่อรู้ยิ่งราคะ ๔ ประการเป็นไฉนดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อมเจริญอิทธิบาทอันประกอบด้วยฉันทสมาธิ และปธานสังขาร ๑ เจริญอิทธิบาทอันประกอบด้วย
วิริยสมาธิ...๑จิตตสมาธิ...๑ วิมังสาสมาธิและปธานสังขาร ๑ ธรรม ๔ ประการนี้ควรเจริญเพื่อ
ความรู้ยิ่งราคะ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการควรเจริญเพื่อกำหนดรู้ราคะ ฯลฯ ธรรม ๔
ประการนี้ ควรเจริญเพื่อความสิ้นไปรอบเพื่อละ เพื่อความสิ้น เพื่อความเสื่อม เพื่อคลายกำหนัด
เพื่อดับ เพื่อสละเพื่อสละคืน ซึ่งราคะ ธรรม ๔ ประการนี้ ควรเจริญเพื่อรู้ยิ่ง เพื่อกำหนดรู้
เพื่อความสิ้นไปรอบ เพื่อละ เพื่อความสิ้น เพื่อความเสื่อม เพื่อคลายกำหนัดเพื่อดับ เพื่อสละ
เพื่อสละคืน ซึ่งโทสะ โมหะ โกธะ อุปนาหะ มักขะปฬาสะ อิสสา มัจฉริยะ มายา
สาเฐยยะ ถัมภะ สารัมภะ มานะ อติมานะมทะ ปมาทะ ฯ
จบจตุกกนิบาต ฯ
________