พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/245/789 790 791 792

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เล่ม 15
หน้า 245
อโยนิโสมนสิการสูตรที่ ๑๑
[๗๘๙] สมัยหนึ่ง ภิกษุรูปหนึ่ง พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่งในแคว้นโกศล สมัย นั้นแล เธอไปที่พักในกลางวัน ตรึกอกุศลวิตกอันลามกคือกามวิตกพยาบาทวิตก และ วิหิงสาวิตก ฯ
[๗๙๐] ครั้งนั้นแล เทวดาผู้สิงอยู่ในแนวป่านั้น มีความเอ็นดู ใคร่ประโยชน์ แก่ ภิกษุนั้น หวังจะให้ภิกษุนั้นสังเวช จึงเข้าไปหาถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าวกะภิกษุนั้น ด้วยคาถาว่า ท่านถูกวิตกกิน เพราะมนสิการไม่แยบคาย ท่านจงละมนสิการไม่ แยบคายเสีย และจงใคร่ครวญโดยแยบคาย ท่านปรารภพระศาสดา พระธรรม พระสงฆ์ และศีลของตนแล้วจะบรรลุความปราโมทย์ ปีติ และสุขโดยไม่ต้องสงสัย แต่นั้นท่านจักเป็นผู้มากด้วยความปราโมทย์ จักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ ฯ ลำดับนั้นแล ภิกษุนั้น เป็นผู้อันเทวดานั้นให้สังเวชถึงซึ่งความสลดใจแล้วแล ฯ มัชฌันติกสูตรที่ ๑๒
[๗๙๑] สมัยหนึ่ง ภิกษุรูปหนึ่ง พำนักอยู่ในแนวป่าแห่งหนึ่งในแคว้นโกศล ฯ
[๗๙๒] ครั้งนั้นแล เทวดาผู้สิงอยู่ในป่านั้น เข้าไปหาถึงที่อยู่ ครั้น แล้วได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ในสำนักของภิกษุนั้นว่า ในกาลกำลังเที่ยงวัน เมื่อนกทั้งหลายจับเจ่าแล้ว ภัยนั้นย่อมปรากฏแก่ เรา ประดุจป่าใหญ่ส่งเสียงอยู่ ฯ ภิ. ในกาลกำลังเที่ยง เมื่อนกทั้งหลายจับเจ่าแล้ว ความยินดีนั้นย่อมปรากฏ แก่เรา ประดุจป่าใหญ่ส่งเสียงอยู่ ฉะนั้น ฯ