พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/250/292
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
ละเสีย บรรเทาเสีย ทำให้สิ้นสุดเสีย ให้ถึงความไม่มีไซร้ ภิกษุแม้เที่ยวไปอยู่เป็นอยู่อย่างนี้
เรากล่าวว่า เป็นผู้มีความเพียรมีโอตตัปปะ ปรารภความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ตลอดกาลเป็น
นิตย์ ถ้าแม้กามวิตกพยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้ยืนอยู่ ... ผู้นั่งอยู่ ...
ถ้าแม้กามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้นอนอยู่ ตื่นอยู่หากว่า
ภิกษุย่อมไม่รับกามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตกนั้นไว้ ละเสียบรรเทาเสีย ทำให้สิ้น
สุดเสีย ให้ถึงความไม่มีไซร้ ภิกษุแม้นอนอยู่ ตื่นอยู่เป็นอยู่แล้วอย่างนี้ เรากล่าวว่า เป็น
ผู้มีความเพียร มีโอตตัปปะ ปรารภความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ตลอดกาลเป็นนิตย์
ภิกษุใดเที่ยวไปอยู่ ยืนอยู่ นั่งอยู่ หรือนอนอยู่ ย่อมตรึกถึงวิตกอัน
ลามกอันอาศัยแล้วซึ่งเรือนไซร้ ภิกษุนั้นชื่อว่าดำเนินไปตามทางผิด
หมกมุ่นอยู่ในอารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งความหลง ภิกษุเช่นนั้น เป็นผู้ไม่
ควรเพื่อจะถูกต้องซึ่งสัมโพธิญาณอันสูงสุด ภิกษุใดเที่ยวไปอยู่ ยืนอยู่
นั่งอยู่หรือนอนอยู่ สงบระงับวิตกได้แล้ว ยินดีในธรรมเป็นที่สงบวิตก
ภิกษุเช่นนั้น เป็นผู้ควรเพื่อจะถูกต้องซึ่งสัมโพธิญาณอันสูงสุด ฯ
จบสูตรที่ ๑๑
๑๒. สัมปันนสูตร
[๒๙๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงเป็นผู้มีศีลสมบูรณ์ มีปาติโมกข์สมบูรณ์
สำรวมแล้วด้วยปาติโมขสังวร ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจรมีปรกติเห็นภัยในโทษมีประมาณ
น้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลายเถิดดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอทั้งหลายมีศีล
สมบูรณ์ มีปาติโมกข์สมบูรณ์ สำรวมแล้วด้วยปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร
มีปรกติเห็นภัยในโทษอันมีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย จะมีกิจอะไรที่
เธอทั้งหลายพึงกระทำให้ยิ่งขึ้นไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้อภิชฌา พยาบาท ถีนมิทธะ
อุทธัจจกุกกุจจะ ของภิกษุผู้เที่ยวไปอยู่ เป็นธรรมชาติปราศไปแล้ว อันภิกษุผู้เที่ยวไปอยู่ละ
วิจิกิจฉาได้แล้ว ปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน ตั้งสติไว้มั่น ไม่หลงลืม กายระงับแล้ว ไม่
ระส่ำระส่าย ตั้งจิตมั่น มีอารมณ์อันเดียว ภิกษุผู้เที่ยวไปอยู่เป็นอยู่อย่างนี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้มีความ