พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/261/850 851 852 853 854 855
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
บุคคลไม่หมั่น ไม่พยายาม จะประสพสุขได้ ณ ที่ใด ดูกรสุวีระ เจ้า
จงไป ณ ที่นั้น และจงพาเราไปให้ถึง ณ ที่นั้นด้วยเถิด ฯ
[๘๕๐] สุวีรเทพบุตรกราบทูลว่า
บุคคลเป็นผู้เกียจคร้าน ไม่หมั่น และไม่ใช้ใครๆ ให้กระทำกิจทั้งหลาย
อีกด้วย เขาพึงพรั่งพร้อมด้วยกามทุกอย่าง ข้าแต่ท้าวสักกะ ขอพระองค์
จงตรัสบอกฐานะอันประเสริฐนั้นแก่ข้าพระองค์
[๘๕๑] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า
ที่ใด บุคคลเกียจคร้าน ไม่หมั่น ถึงความสุขล่วงส่วนได้ สุวีระ เ
จ้าจงไป ณ ที่นั้นและจงพาเราไปให้ถึง ณ ที่นั้นด้วยเถิด ฯ
[๘๕๒] สุวีรเทพบุตรทูลว่า
ข้าแต่ท้าวสักกะผู้ประเสริฐกว่าเทวดา ข้าพระองค์ทั้งหลายจะพึงได้ความ
สุขใด โดยไม่ต้องทำการงาน ข้าแต่ท้าวสักกะขอพระองค์จงตรัสบอก
ความสุขนั้นอันประเสริฐ ที่ไม่มีความแห้งใจ ไม่มีความคับแค้นแก่
ข้าพระองค์เถิด ฯ
[๘๕๓] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า
หากความสุขจะมีได้โดยไม่ต้องทำการงาน ไม่ว่าในที่ไหนๆใครๆ
ย่อมทรงชีพอยู่ไม่ได้ เพราะนั่นเป็นทางแห่งนิพพานสุวีระ เจ้าจงไป
ณ ที่นั้น และจงพาเราไปให้ถึง ณ ที่นั้นด้วยเถิด ฯ
[๘๕๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ท้าวสักกะจอมเทวดาพระองค์นั้น อาศัยผลบุญของพระองค์
เป็นอยู่ เสวยรัชสมบัติอันมีความเป็นใหญ่ยิ่งด้วยความเป็นอิสระแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์ ยังมา
พรรณนาคุณแห่งความเพียรคือความหมั่น ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอบวชในธรรมวินัยที่เรา
กล่าวชอบแล้วอย่างนี้ พึงหมั่น เพียรพยายาม เพื่อบรรลุมรรคผลที่ยังไม่บรรลุ เพื่อได้มรรคผล
ที่ยังไม่ได้ เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งมรรคผลที่ยังไม่ได้กระทำให้แจ้ง ข้อนี้จะพึงงดงามในธรรมวินัยนี้
โดยแท้ ฯ
สุสิมสูตรที่ ๒
[๘๕๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่าน
อนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯ