พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/262/856 857 858 859 860

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เล่ม 15
หน้า 262
ในกาลนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฯ ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ฯ
[๘๕๖] พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว พวกอสูรได้พา กันมารบกับพวกเทวดา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น ท้าวสักกะจอมเทวดาตรัสเรียกสุสิมเทพบุตร มาบัญชาว่า พ่อสุสิมะ พวกอสูรเหล่านี้กำลังพากันมารบพวกเทวดา พ่อจงไปป้องกันพวกอสูรไว้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุสิมเทพบุตรรับบัญชาท้าวสักกะจอมเทวดาว่า ขอเดชะ ขอพระองค์จงทรง พระเจริญดังนี้ แล้วมัวประมาทเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ครั้งที่ ๒ ฯลฯ แม้ครั้งที่ ๓ ท้าวสักกะจอมเทวดาก็ได้ตรัสเรียกสุสิมเทพบุตรมาบัญชาว่า พ่อสุสิมะ พวกอสูรเหล่านี้กำลังพา กันมารบพวกเทวดา พ่อจงไปป้องกันพวกอสูรไว้ ดูกรภิกษุทั้งหลายแม้ในครั้งที่ ๓ สุสิม เทพบุตรรับบัญชาท้าวสักกะจอมเทวดาว่า ขอเดชะขอพระองค์จงทรงพระเจริญ ดังนี้ แล้วมัว ประมาทเสีย ฯ
[๘๕๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทวดาตรัสกะสุสิมเทพบุตร ด้วยคาถาว่า บุคคลไม่หมั่น ไม่พยายาม แต่ประสบความสุขได้ ณ ที่ใด ดูกรสุสิมะ เจ้าจงไป ณ ที่นั้น และจงพาเราไปให้ถึง ณ ที่นั้นด้วยเถิด ฯ
[๘๕๘] สุสิมเทพบุตรกราบทูลว่า บุคคลเป็นผู้เกียจคร้าน ไม่หมั่น และไม่ใช้ใครๆ ให้กระทำกิจทั้งหลาย อีกด้วย เขาพึงพรั่งพร้อมด้วยกามทุกอย่าง ข้าแต่ท้าวสักกะ ขอพระองค์ จงตรัสบอกฐานะอันประเสริฐนั้นแก่ข้าพระองค์ ฯ
[๘๕๙] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า ที่ใด บุคคลเกียจคร้าน ไม่หมั่น ถึงความสุขล่วงส่วนได้สุสิมะ เจ้า จงไป ณ ที่นั้น และจงพาเราไปให้ถึง ณ ที่นั้นด้วยเถิด ฯ
[๘๖๐] สุสิมเทพบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่ท้าวสักกะผู้ประเสริฐกว่าเทวดา ข้าพระองค์ทั้งหลาย จะพึงได้ ความสุขใด โดยไม่ต้องทำการงาน ข้าแต่ท้าวสักกะ ขอพระองค์จง ตรัสบอกความสุขนั้นอันประเสริฐ ที่ไม่มีความแห้งใจ ไม่มีความ คับแค้นแก่ข้าพระองค์เถิด ฯ