พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/266/869 870 871 872 873 874
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
ห้าแห่งอันมีคอเป็นที่ ๕ แล้วพึงนำมายังอสูรบุรี ในสำนักของเรา ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ท้าว
สักกะจอมเทวดาก็บัญชากะเทวดาชั้นดาวดึงส์ทั้งหลายว่า ดูกรท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลายถ้าเมื่อ
สงครามระหว่างเทวดากับอสูรประชิดกัน พวกเทวดาพึงชนะ พวกอสูรถึงปราชัยไซร้ ท่านทั้งหลาย
พึงมัดท้าวเวปจิตติจอมอสูร ด้วยการมัดห้าแห่งอันมีคอเป็นที่ ๕ แล้วพึงนำมายังสุธรรมาสภา
ในสำนักของเรา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลในสงครามครั้งนั้น พวกเทวดาชนะ พวกอสูรปราชัย
ครั้งนั้น เทวดาชั้นดาวดึงส์ได้จับท้าวเวปจิตติจอมอสูรมัดด้วยการมัดห้าแห่ง อันมีคอเป็นที่ ๕
แล้วนำมายังสุธรรมาสภา ในสำนักของท้าวสักกะจอมเทวดา ฯ
[๘๖๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ทราบว่า ในครั้งนั้น ท้าวเวปจิตติจอมอสูรถูกมัดด้วย
การมัดห้าแห่งอันมีคอเป็นที่ ๕ ได้ด่าบริภาษท้าวสักกะจอมเทวดาซึ่งกำลังเสด็จเข้าและออก
ยังสุธรรมาสภา ด้วยวาจาอันหยาบคาย มิใช่ของสัตบุรุษ ฯ
[๘๗๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล มาตลีเทพบุตร ผู้สงเคราะห์ได้ทูลถามท้าวสักกะ
จอมเทวดาด้วยคาถาว่า
ข้าแต่ท้าวสักกะมฆวาฬ พระองค์ได้ทรงสดับถ้อยคำอันหยาบคาย เฉพาะ
หน้า ของท้าวเวปจิตติจอมอสูร ยังทรงอดทนได้ เพราะความกลัว
หรือเพราะไม่มีกำลัง พระเจ้าข้า ฯ
[๘๗๑] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า
เราอดทนถ้อยคำอันหยาบคายของท้าวเวปจิตติได้ เพราะความกลัวหรือ
เพราะไม่มีกำลัง ก็หาไม่ วิญญูชนผู้เช่นเราไฉนจะพึงโต้ตอบกับคน
พาลเล่า ฯ
[๘๗๒] มาตลีเทพบุตรกราบทูลว่า
คนพาลพึงทำลายได้อย่างยิ่ง ถ้าไม่พึงเกียดกันเสียก่อน เพราะฉะนั้น
ธีรชนพึงเกียดกันคนพาลด้วยอาชญาอย่างรุนแรง ฯ
[๘๗๓] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า
ผู้ใดรู้ว่าคนอื่นโกรธแล้ว เป็นผู้มีสติสงบระงับได้ เราเห็นว่า การสงบ
ระงับได้ของผู้นั้นแล เป็นการเกียดกันคนพาลละ ฯ
[๘๗๔] มาตลีเทพบุตรกราบทูลว่า