พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/27/24

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เล่ม 25
หน้า 27
สว่างไสว เหมือนพระจันทร์พ้นแล้วจากเมฆ ฉะนั้น ผู้ใดทำกรรมอัน ลามกผู้นั้นย่อมปิด
[ละ] เสียได้ด้วยกุศล บุคคลนั้นย่อมยังโลกนี้ให้ สว่างไสว เหมือนพระจันทร์พ้นแล้วจากเมฆ ฉะนั้น โลกนี้มืดมน ใน โลกนี้น้อยคนที่จะเห็นแจ้ง สัตว์ไปสวรรค์ได้น้อยดุจนกพ้นจากข่าย ฝูง หงส์ย่อมไปในทางพระอาทิตย์ ท่านผู้เจริญอิทธิบาทดีแล้ว ย่อมไปใน อากาศด้วยฤทธิ์ นักปราชญ์ทั้งหลายชนะมารพร้อมทั้งพาหนะได้แล้ว ย่อมออกไปจากโลก คนล่วงธรรมอย่างเอกเสียแล้ว เป็นคนมักพูดเท็จ ข้ามโลกหน้าเสียแล้ว ไม่พึงทำบาป ย่อมไม่มี คนตระหนี่ย่อมไปสู่ เทวโลกไม่ได้เลย คนพาลย่อมไม่สรรเสริญทานโดยแท้ส่วนนักปราชญ์ อนุโมทนาทาน เพราะการอนุโมทนาทานนั่นเอง ท่านย่อมเป็นผู้มีความ สุขในโลกหน้า โสดาปัตติผลประเสริฐกว่าความเป็นพระราชาเอกใน แผ่นดิน กว่าความไปสู่สวรรค์ และกว่าความเป็นอธิบดีในโลกทั้งปวง ฯ จบโลกวรรคที่ ๑๓ คาถาธรรมบท พุทธวรรคที่ ๑๔
[๒๔] กิเลสชาติอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดทรงชนะแล้วอัน พระองค์ย่อมไม่กลับแพ้กิเลสชาติอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ นั้นทรงชนะแล้ว กิเลสบางอย่างย่อมไม่ไปตามในโลก ท่านทั้งหลาย จักนำพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ตรัสรู้แล้ว มีอารมณ์หาที่สุดมิได้ ผู้ไม่มีร่องรอย ไปด้วยร่องรอยอะไร ตัณหามีข่ายส่ายไปในอารมณ์ต่างๆ ไม่มีแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใด เพื่อจะนำไปในภพไหนๆ ท่าน ทั้งหลายจักนำพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ตรัสรู้แล้ว มีอารมณ์หา ที่สุดมิได้ ผู้ไม่มีร่องรอย ไปด้วยร่องรอยอะไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหล่าใด ผู้ขวนขวายแล้วในฌาน เป็นนักปราชญ์ ยินดีแล้วในธรรม