พระสุตตันตปิฎกไทย: 13/270/367 368
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
๙. จูฬสกุลุทายิสูตร
เรื่อง สกุลุทายีปริพาชก
[๓๖๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน เขต
พระนครราชคฤห์. สมัยนั้น สกุลุทายีปริพาชกอยู่ในปริพาชิการามเป็นที่ให้เหยื่อแก่นกยูง พร้อม
ด้วยปริพาชกบริษัทหมู่ใหญ่. ครั้งนั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรจีวร
เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงราชคฤห์ ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคได้ทรงดำริว่า การเที่ยวบิณฑบาต
ในกรุงราชคฤห์ยังเช้านัก อย่ากระนั้นเลย เราพึงเข้าไปหาสกุลุทายีปริพาชก ยังปริพาชิการามอัน
เป็นที่ให้เหยื่อแก่นกยูงเถิด. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปยังปริพาชิการาม อันเป็นที่
ให้เหยื่อแก่นกยูง.
ติรัจฉานกถา
[๓๖๘] ก็สมัยนั้น สกุลุทายีปริพาชกนั่งอยู่กับปริพาชกบริษัทหมู่ใหญ่ ซึ่งกำลังสนทนา
ติรัจฉานกถาต่างเรื่อง ด้วยเสียงอื้ออึงอึกทึก คือ พูดเรื่องพระราชา ฯลฯ เรื่องความเจริญและ
ความเสื่อมด้วยประการนั้น. สกุลุทายีปริพาชกได้เห็นพระผู้มีพระภาคกำลังเสด็จมาแต่ไกล ครั้น
เห็นแล้วจึงห้ามบริษัทของตนให้สงบว่า ขอท่านทั้งหลายจงเบาๆ เสียงหน่อย อย่าส่งเสียงอึงนัก
นี่พระสมณโคดมกำลังเสด็จมา พระองค์ท่านทรงโปรดเสียงเบา และทรงกล่าวสรรเสริญคุณของ
เสียงเบา บางทีพระองค์ท่านทรงทราบว่า บริษัทมีเสียงเบา พึงทรงสำคัญที่จะเสด็จเข้ามาก็ได้.
ลำดับนั้น พวกปริพาชกเหล่านั้นพากันนิ่งอยู่. ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปหา
สกุลุทายีปริพาชกจนถึงที่อยู่. สกุลุทายีปริพาชกได้กราบทูลเชิญพระผู้มีพระภาคว่า ขอเชิญ
พระผู้มีพระภาคเสด็จมาเถิด พระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคเสด็จมาดีแล้ว นานๆ พระผู้มีพระภาค
จึงจะมีโอกาสเสด็จมาถึงนี่ได้ ขอเชิญพระผู้มีพระภาคประทับนั่งเถิด นี้อาสนะที่จัดไว้. พระผู้มี
พระภาคประทับนั่งบนอาสนะที่จัดไว้แล้ว. ส่วนสกุลุทายีปริพาชกถือเอาอาสนะต่ำแห่งหนึ่ง นั่ง