พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/272/892 893 894 895 896 897
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
[๘๙๒] ท้าวสักกะจอมเทวดาตรัสว่า
เป็นชายควรพยายามไปจนกว่าประโยชน์สำเร็จ ประโยชน์ทั้งหลาย
งดงามอยู่ที่ความสำเร็จ ประโยชน์ยิ่งกว่าขันติไม่มี ฯ
[๘๙๓] ท้าวเวโรจนะจอมอสูรตรัสว่า
สรรพสัตว์ย่อมเกิดความต้องการในสิ่งนั้นๆ ตามควร ส่วนการบริโภค
ของสรรพสัตว์มีการปรุงประกอบเป็นอย่างยิ่ง ประโยชน์ทั้งหลาย
งดงามอยู่ที่ความสำเร็จ นี้เป็นถ้อยคำของเวโรจนะ ฯ
[๘๙๔] ท้าวสักกะจอมเทวดาตรัสว่า
สรรพสัตว์ย่อมเกิดความต้องการในสิ่งนั้นๆ ตามควร ส่วนการบริโภค
ของสรรพสัตว์ มีการปรุงประกอบเป็นอย่างยิ่งประโยชน์ทั้งหลายง
ดงามอยู่ที่ความสำเร็จ ประโยชน์ยิ่งกว่าขันติไม่มี ฯ
อารัญญกสูตรที่ ๙
[๘๙๕] สาวัตถีนิทาน ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรมมากรูปด้วยกัน อาศัยอยู่
ในกุฎีที่มุงบังด้วยใบไม้ ในราวป่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทวดากับท้าว
เวปจิตติจอมอสูร เข้าไปหาฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรมเหล่านั้นถึงที่อยู่ ฯ
[๘๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล ท้าวเวปจิตติจอมอสูรสวมรองเท้าหนาหลายชั้น
สะพายดาบ มีผู้กั้นร่มให้ เข้าไปสู่อาศรมทางทวารอันเลิศเข้าไปใกล้ฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรม
เหล่านั้นห่างไม่ถึงวา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแลท้าวสักกะจอมเทวดาทรงถอดฉลองพระบาท
ประทานพระขรรค์ให้แก่ผู้อื่นรับสั่งให้ลดฉัตรเสด็จเข้าไปทางอาศรมโดยทางทวารเข้าออก
ประทับประคองอัญชลีนมัสการฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรมเหล่านั้นอยู่ใต้ลม ฯ
[๘๙๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลำดับนั้นแล ฤาษีผู้มีศีลมีกัลยาณธรรมเหล่านั้นได้กล่าว
กะท้าวสักกะจอมเทวดาด้วยคาถาว่า
กลิ่นของพวกฤาษีผู้ประพฤติพรตมานาน ย่อมจะฟุ้งจากกายไปตามลม ดูกร
ท้าวสหัสนัยน์ พระองค์จงถอยไปเสียจากที่นี้ดูกรท้าวเทวราช กลิ่นของ
พวกฤาษีไม่สะอาด ฯ