พระสุตตันตปิฎกไทย: 24/272/196
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
ตั้งใจเป็นกุศล ย่อมมีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก สมบัติแห่งการงานทางวาจา ๔ อย่าง อันมี
ความตั้งใจเป็นกุศล ย่อมมีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก สมบัติแห่งการงานทางใจ ๓ อย่าง
อันมีความตั้งใจเป็นกุศล ย่อมมีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สมบัติแห่งการงานทางกาย ๓ อย่าง อันมีความตั้งใจเป็นกุศล ย่อม
มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก อย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ละการ
ฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลายสมบัติแห่งการงานทางกาย ๓ อย่าง
อันมีความตั้งใจเป็นกุศล ย่อมมีสุขเป็นกำไรมีสุขเป็นวิบาก อย่างนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมบัติแห่งการงานทางวาจา ๔ อย่าง อันมีความตั้งใจเป็นกุศล ย่อม
มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก อย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ละการ
พูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลายสมบัติแห่งการงานทางวาจา ๔ อย่าง
อันมีความตั้งใจเป็นกุศล ย่อมมีสุขเป็นกำไรมีสุขเป็นวิบาก อย่างนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมบัติแห่งการงานทางใจ ๓ อย่าง อันมีความตั้งใจเป็นกุศล ย่อมมี
สุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก อย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลายบุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่
อยากได้ของผู้อื่น ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมบัติแห่งการงานทางใจ ๓ อย่าง อันมีความตั้งใจ
เป็นกุศล ย่อมมีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก อย่างนี้แล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เพราะเหตุ
แห่งสมบัติแห่งการงานทางกาย ๓ อย่าง อันมีความตั้งใจเป็นกุศลเพราะเหตุแห่งสมบัติแห่ง
การงานทางวาจา ๔ อย่าง อันมีความตั้งใจเป็นกุศล หรือเพราะเหตุแห่งสมบัติแห่งการงานทางใจ
๓ อย่าง อันมีความตั้งใจเป็นกุศล ฯ
จบสูตรที่ ๔
กรรมสูตรที่ ๓
[๑๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราไม่รู้แล้ว ย่อมไม่กล่าวความสิ้นสุดแห่งกรรมที่สัตว์ตั้งใจ
กระทำสั่งสมขึ้น ก็วิบากนั้นแลอันสัตว์ผู้ทำพึงได้เสวยในปัจจุบันในอัตภาพถัดไป หรือใน
อัตภาพต่อๆ ไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราไม่รู้แล้วย่อมไม่กล่าวการทำที่สุดทุกข์แห่งกรรมที่สัตว์
ตั้งใจกระทำสั่งสมขึ้น ฯ