พระสุตตันตปิฎกไทย: 13/274/374 375 376
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
พึงถามเขาว่า พ่อ นางชนปทกัลยาณีที่พ่อปรารถนารักใคร่นั้น พ่อรู้จักหรือว่า สูง ต่ำ หรือพอสันทัด
ดำ ขาว หรือมีผิวคล้ำ อยู่ในบ้าน นิคม หรือนครโน้น. เมื่อเขาถูกถามดังนี้แล้ว เขาพึงตอบว่า
หามิได้. คนทั้งหลายพึงกล่าวกะเขาว่า พ่อปรารถนารักใคร่หญิงที่พ่อไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหรือ.
เมื่อเขาถูกถามดังนี้แล้ว เขาพึงตอบว่าถูกแล้ว ดังนี้. ดูกรอุทายี ท่านจะสำคัญความข้อนั้น
เป็นไฉน เมื่อเป็นเช่นนี้ คำกล่าวของบุรุษนั้น ถึงเป็นคำใช้ไม่ได้ไม่ใช่หรือ?
แน่นอน พระเจ้าข้า เมื่อเป็นเช่นนั้น คำกล่าวของบุรุษนั้น ถึงความเป็นคำใช้ไม่ได้.
ดูกรอุทายี ท่านก็ฉันนั้นเหมือนกัน กล่าวอยู่แต่ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ วรรณใดไม่มี
วรรณอื่นยิ่งกว่าหรือประณีตกว่า วรรณนั้นเป็นวรรณอย่างยิ่ง ดังนี้ แต่ไม่ชี้วรรณนั้น.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เปรียบเหมือนแก้วไพฑูรย์อันงาม เกิดเองอย่างบริสุทธิ์ ๘ เหลี่ยม
นายช่างเจียระไนดีแล้ว เขาวางไว้ที่ผ้ากัมพลแดง ย่อมสว่างไสว ส่องแสงเรืองอยู่ ฉันใด
ตัวตนก็มีวรรณ ฉันนั้น เมื่อตายไปย่อมเป็นของไม่มีโรค.
[๓๗๔] ดูกรอุทายี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน แก้วไพฑูรย์อันงาม เกิดเอง
อย่างบริสุทธิ์ ๘ เหลี่ยม นายช่างเจียระไนดีแล้ว เขาวางไว้ที่ผ้ากัมผลแดง ย่อมสว่างไสว
ส่องแสงเรืองอยู่ ๑ แมลงหิงห้อยในเวลาเดือนมืดในราตรี ๑ บรรดาวรรณทั้งสองนี้ วรรณไหน
จะงาม และประณีตกว่ากัน?
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บรรดาวรรณทั้งสองนี้ แมลงหิงห้อยในเวลาเดือนมืดในราตรีนี้
งามกว่าด้วย ประณีตกว่าด้วย.
[๓๗๕] ดูกรอุทายี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน แมลงหิงห้อยในเวลาเดือนมืด
ในราตรี ๑ ประทีปน้ำมันในเวลาเดือนมืดในราตรี ๑ บรรดาวรรณทั้งสองนี้ วรรณไหนจะงาม
และประณีตกว่ากัน?
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บรรดาวรรณทั้งสองนี้ ประทีปน้ำมันในเวลาเดือนมืดในราตรีนี้
งามกว่าด้วย ประณีตกว่าด้วย.
[๓๗๖] ดูกรอุทายี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ประทีปน้ำมันในเวลาเดือนมืด
ในราตรี ๑ กองไฟใหญ่ในเวลาเดือนมืดในราตรี ๑ บรรดาวรรณทั้งสองนี้ วรรณไหนจะงาม
และประณีตกว่ากัน?