พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/28/28
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
เห็นโทษ มีปัญญาเครื่องรื้อออกบริโภคอยู่ และย่อมไม่ยกตน ไม่ข่มผู้อื่น เพราะความสันโดษ
ด้วยบิณฑบาตตามมีตามได้นั้น จริงอยู่ ภิกษุใดเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้านในการสันโดษด้วย
บิณฑบาตตามมีตามได้นั้น มีสัมปชัญญะ มีสติเฉพาะหน้า ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุนี้เรากล่าวว่า
เป็นผู้ตั้งอยู่ในอริยวงศ์อันเป็นของเก่า ซึ่งนักปราชญ์สรรเสริญว่าเป็นเลิศ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมเป็นผู้สันโดษด้วยเสนาสนะตามมีตามได้ มีปรกติกล่าว
สรรเสริญคุณแห่งการสันโดษด้วยเสนาสนะตามมีตามได้ ย่อมไม่ถึงการแสวงหาอันไม่สมควรเพราะ
เสนาสนะเป็นเหตุ เมื่อไม่ได้ก็ไม่ตกใจ ครั้นได้แล้วย่อมไม่ยึดถือ ไม่หมกมุ่น ไม่ห่วงใย มี
ปรกติเห็นโทษ มีปัญญาเครื่องรื้อออกบริโภคอยู่และย่อมไม่ยกตน ไม่ข่มผู้อื่น เพราะความสันโดษ
ด้วยเสนาสนะตามมีตามได้นั้น จริงอยู่ ภิกษุใดเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้านในการสันโดษด้วยเสนาสนะ
ตามมีตามได้นั้น มีสัมปชัญญะ มีสติเฉพาะหน้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรากล่าวว่า เป็นผู้ตั้ง
อยู่ในอริยวงศ์อันเป็นของเก่า ซึ่งนักปราชญ์สรรเสริญว่าเป็นเลิศ ฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมเป็นผู้มีภาวนาเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในภาวนา มีปหานะ
เป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในปหานะ ย่อมไม่ยกตน ไม่ข่มผู้อื่นเพราะมีภาวนาเป็นที่มายินดี เพราะ
ยินดีในภาวนา เพราะมีปหานะเป็นที่มายินดีเพราะยินดีในปหานะนั้น จริงอยู่ ภิกษุใดเป็นผู้ขยัน
ไม่เกียจคร้านในภาวนาและปหานะนั้น มีสัมปชัญญะ มีสติเฉพาะหน้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้
เรากล่าวว่า เป็นผู้ตั้งอยู่ในอริยวงศ์อันเป็นของเก่า ซึ่งนักปราชญ์สรรเสริญว่าเป็นเลิศ ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย อริยวงศ์ ๔ ประการนี้แล นักปราชญ์รู้ว่าเลิศมีมานาน เป็นเชื้อสายแห่งพระอริยะเป็น
ของเก่า ไม่กระจัดกระจาย และไม่เคยกระจัดกระจาย อันบัณฑิตย่อมไม่รังเกียจ จักไม่รังเกียจ
วิญญูชนทั้งสมณะและพราหมณ์ไม่เกลียด ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยอริยวงศ์ ๔ ประการนี้ ถึงแม้อยู่ในทิศตะวันออก
เธอย่อมครอบงำความไม่ยินดีเสียได้ ความไม่ยินดีย่อมไม่ครอบงำเธอได้ ถึงแม้เธออยู่ในทิศตะวัน
ตก ... ในทิศเหนือ ... ในทิศใต้ เธอก็ย่อมครอบงำความไม่ยินดีเสียได้ ความไม่ยินดีย่อมไม่
ครอบงำเธอได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเธอเป็นธีรชนครอบงำความไม่ยินดีและความยินดีได้ ฯ
ความยินดีย่อมครอบงำธีรชนไม่ได้ ความไม่ยินดีไม่อาจ
ครอบงำธีรชน ธีรชนย่อมครอบงำความไม่ยินดีได้ เพราะ
ธีรชนเป็นผู้ครอบงำความไม่ยินดี กิเลสอะไรจะมากั้นกาง
บุคคลผู้บรรเทากิเลสเสียได้ มีปรกติละกรรมทั้งปวงได้