พระสุตตันตปิฎกไทย: 17/286/543 544
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
๑๑. วลาหกสังยุต
๑. เทสนาสูตร
ว่าด้วยเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก
[๕๔๓] พระนครสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงพวก
เทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหกแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวก
เทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหกเป็นไฉน? พวกเทวดาที่เป็นสีตวลาหกก็มี ที่เป็นอุณหวลาหกก็มี
ที่เป็นอัพภวลาหกก็มี ที่เป็นวาตวลาหกก็มี ที่เป็นวัสสวลาหกก็มี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกนี้
เราเรียกว่า พวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก.
จบ สูตรที่ ๑.
๒. สุจริตสูตร
ว่าด้วยเหตุให้เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาพวกวลาหก
[๕๔๔] พระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระ
ภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อ
ตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติสุจริตด้วยกาย
ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก มีอายุยืน มีวรรณะ
งาม มีความสุขมาก เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึง
ความเป็นสหายของพวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก. เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา
ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีปและอุปกรณ์แห่งประทีป. เมื่อตายไป เขาย่อม
เข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่วลาหก. ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็น