พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/298/552 553
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
จิตต. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พระคุณเจ้าอิสิทัตตะมาจากไหน ฯ
อิ. ดูกรคฤหบดี อาตมภาพมาจากอวันตีชนบท ฯ
จิตต. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ กุลบุตรมีนามว่าอิสิทัตตะในอวันตีชนบทเป็นสหายที่ไม่
เคยเห็นกันของข้าพเจ้า ได้ออกบรรพชามีอยู่ พระคุณเจ้าได้เห็นท่านหรือไม่ ฯ
อิ. ได้เห็น คฤหบดี ฯ
จิตต. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เดี๋ยวนี้ ท่านผู้มีอายุรูปนั้นอยู่ที่ไหนหนอ ฯ
[๕๕๒] เมื่อจิตตคฤหบดีได้ถามอย่างนี้ ท่านอิสิทัตตะได้นิ่งอยู่ ฯ
จิตต. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ท่านอิสิทัตตะของข้าพเจ้า คือพระคุณเจ้าหรือ ฯ
อิ. ใช่ละ คฤหบดี ฯ
จิตต. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอให้พระคุณเจ้าอิสิทัตตะจงชอบใจอัมพาฏกวันอันเป็นที่น่า
รื่นรมย์ใกล้ราวป่ามัจฉิกาสณฑ์เถิด ข้าพเจ้าจักบำรุงด้วยจีวรบิณฑบาต เสนาสนะ และคิลาน
เภสัชบริขาร
อิ. ดูกรคฤหบดี ท่านกล่าวดีแล้ว ฯ
[๕๕๓] ครั้งนั้นแล จิตตคฤหบดีชื่นชมอนุโมทนาภาษิตของท่านพระอิสิทัตตะแล้ว ได้
อังคาสภิกษุผู้เถระทั้งหลายให้อิ่มหนำสำราญ ด้วยขาทนียะโภชนียาหารอันประณีต ด้วยมือของ
ตน ครั้งนั้นแล ภิกษุผู้เถระทั้งหลายฉันเสร็จแล้ว ลดมือจากบาตร ลุกขึ้นจากอาสนะกลับไป
ลำดับนั้นแล พระเถระผู้เป็นประธานได้ให้โอกาสท่านพระอิสิทัตตะว่า ดีแล้ว ท่านอิสิทัตตะ
ปัญหาข้อนั้นแจ่มแจ้งแก่ท่าน มิได้แจ่มแจ้งแก่ผม ต่อไป ถ้าปัญหาเช่นนี้พึงมีมาแม้โดยประการ
อื่นในกาลใด ท่านนั่นแหละพึงกล่าวตอบปัญหาเช่นนั้นในกาลนั้นครั้งนั้นแล ท่านอิสิทัตตะได้
เก็บเสนาสนะ ถือเอาบาตรและจีวร เดินทางออกจากราวป่าชื่อมัจฉิกาสณฑ์ไม่ได้กลับมาอีก
เหมือนกับภิกษุรูปอื่นที่ได้ออกเดินทางจากไป ฯ
จบสูตรที่ ๓