พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/30/117 118 119 120 121 122
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
[๑๑๗] ในครั้งนั้นแล พวกเทวดาทั้ง ๔ นั้นจึงหายจากหมู่พรหมชั้น สุทธาวาส มา
ปรากฏอยู่เฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาค เหมือนบุรุษผู้มีกำลัง เหยียดแขนที่คู้ออกหรือคู้แขนที่
เหยียดเข้า ฉะนั้น ฯ
[๑๑๘] เทวดาองค์หนึ่ง ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้กล่าว คาถานี้
ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า
การประชุมใหญ่ในป่าใหญ่ มีพวกเทวดามาประชุมกันแล้ว พวกข้าพเจ้า
มาสู่ที่ชุมนุมอันเป็นธรรมนี้ เพื่อจะเยี่ยมหมู่พระผู้ที่ใครๆ ให้แพ้ไม่ได้ ฯ
[๑๑๙] ในลำดับนั้นแล เทวดาองค์อื่นอีก ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า
ภิกษุทั้งหลายในที่ประชุมนั้นตั้งจิตมั่นแล้ว ได้ทำจิตของตนให้
ตรงแล้วภิกษุทั้งปวงนั้นเป็นบัณฑิตย่อมรักษาอินทรีย์ทั้งหลาย
ดุจดังว่านายสารถีถือบังเหียน ฉะนั้น ฯ
[๑๒๐] ในลำดับนั้นแล เทวดาองค์อื่นอีก ได้กล่าวคาถานี้ในสำนัก พระผู้มีพระภาคว่า
ภิกษุทั้งหลายนั้นตัดกิเลสดังตะปูเสียแล้ว ตัดกิเลสดังว่าลิ่มสลักเสีย
แล้ว ถอนกิเลสดังว่าเสาเขื่อนเสียแล้ว มิได้มีความหวั่นไหว เป็นผู้
หมดจดปราศจากมลทิน อันพระพุทธเจ้าผู้มีจักษุทรงฝึกดีแล้ว เป็น
หมู่นาคหนุ่มประพฤติอยู่ ฯ
[๑๒๑] ในลำดับนั้นแล เทวดาองค์อื่นอีก ได้กล่าวคาถานี้ในสำนัก พระผู้มีพระภาคว่า
ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งถึงแล้วซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ชนเหล่านั้นจัก
ไม่ไปสู่อบายภูมิ ละร่างกายอันเป็นของมนุษย์แล้วจักยังหมู่เทวดาให้
บริบูรณ์ ฯ
สกลิกสูตรที่ ๘
[๑๒๒] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ มิคทายวัน ในสวนมัททกุจฉิ เขตพระนคร
ราชคฤห์