พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/300/558
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
เถระผู้เป็นประธานว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ การบันดาลอิทธาภิสังขารเท่านี้เป็นการเพียงพอหรือ
พระเถระผู้เป็นประธานได้กล่าวว่า ท่านมหกะ การบันดาลอิทธาภิสังขารเท่านี้เป็นการเพียงพอ
ท่านมหกะ การบันดาลอิทธาภิสังขารเพียงเท่านี้เป็นอันเราทำแล้ว เป็นอันเราบูชาแล้ว ครั้นนั้น
แล ภิกษุผู้เถระทั้งหลายได้ไปตามที่อยู่ แม้ท่านมหกะก็ได้ไปยังที่อยู่ของตน ครั้งนั้นแล จิตต
คฤหบดีเข้าไปหาท่านพระมหกะถึงที่อยู่ ไหว้แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ขอร้องว่า
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอพระคุณเจ้ามหกะจงแสดงอิทธิปาฏิหารย์ที่เป็นอุตริมนุสธรรมแก่ข้าพเจ้าเถิด
ท่านพระมหกะพูดว่า ดูกรคฤหบดีถ้าเช่นนั้น ท่านจงปูผ้าห่มที่ระเบียง แล้วจงเอาฟ่อนหญ้ามา
โปรยลงที่ผ้านั้นจิตตคฤหบดีได้รับคำท่านพระมหกะแล้วจึงปูผ้าห่มที่ระเบียง แล้วเอาฟ่อนหญ้ามา
โปรยลงที่ผ้านั้น ครั้งนั้นแล ท่านพระมหกะได้เข้าไปสู่วิหารใส่ลูกดานแล้วได้บันดาลอิทธาภิ
สังขารให้เปลวไฟแลบออกมาโดยช่องลูกดานและระหว่างลูกดานไหม้หญ้า ไม่ไหม้ผ้าห่ม ครั้งนั้น
จิตตคฤหบดีได้สลัดผ้าห่มแล้ว สลดใจ (ตกใจ)ขนลุกชัน ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ลำดับนั้นแล ท่านพระมหกะได้ออกจากวิหาร (ห้องใน) ได้ถามจิตตคฤหบดีว่า ดูกรคฤหบดี
การบันดาลอิทธาภิสังขารเท่านี้ เป็นการเพียงพอหรือ จิตตคฤหบดีได้กล่าวว่า ท่านมหกะผู้เจริญ
การบันดาลอิทธาภิสังขารเท่านี้เป็นการเพียงพอ ท่านมหกะผู้เจริญ การบันดาลอิทธาภิสังขารเพียง
เท่านี้ เป็นอันท่านกระทำแล้ว เป็นอันท่านบูชาแล้ว ขอพระคุณเจ้ามหกะจงชอบใจอัมพาฏกว
นารามที่น่ารื่นรมย์ใกล้ราวป่ามัจฉิกาสณฑ์เถิดข้าพเจ้าจักบำรุงด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
และคิลานเภสัชบริขาร ท่านพระมหกะได้กล่าวว่า ดูกรคฤหบดี นั่นท่านกล่าวดีแล้ว ครั้งนั้นแล
ท่านพระมหกะได้เก็บเสนาสนะ ถือบาตรและจีวรเดินทางออกจากราวป่าชื่อมัจฉิกาสณฑ์ ไม่ได้
กลับมาอีก เหมือนกับภิกษุรูปอื่นๆ ที่เดินทางจากไป ฉะนั้น ฯ
จบสูตรที่ ๔
กามภูสูตรที่ ๑
[๕๕๘] สมัยหนึ่ง ท่านพระกามภูอยู่ที่อัมพาฏกวัน ใกล้ราวป่ามัจฉิกาสณฑ์ ครั้งนั้นแล
จิตตคฤหบดีได้เข้าไปหาท่านพระกามภูถึงที่อยู่ ไหว้ แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้น