พระสุตตันตปิฎกไทย: 19/31/133 134 135 136 137      
      สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
      
     
 
    
        
          
            		         อัตตสัมปทาสูตรที่ ๑
		    อัตตสัมปทาเป็นนิมิตแห่งอริยมรรค
 [๑๓๓] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งตน (ความถึงพร้อมแห่งจิต) ฯลฯ
		           จบ สูตรที่ ๔
		         ทิฏฐิสัมปทาสูตรที่ ๑
		    ทิฏฐิสัมปทาเป็นนิมิตแห่งอริยมรรค
 [๑๓๔] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งทิฏฐิ ฯลฯ
		           จบ สูตรที่ ๕
		       อัปปมาทสัมปทาสูตรที่ ๑
		  ความไม่ประมาทเป็นนิมิตแห่งอริยมรรค
 [๑๓๕] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งความไม่ประมาท ฯลฯ
		           จบ สูตรที่ ๖
		     โยนิโสมนสิการสัมปทาสูตรที่ ๑
		  โยนิโสมนสิการเป็นนิมิตแห่งอริยมรรค
 [๑๓๖] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อพระอาทิตย์จะขึ้น สิ่งที่ขึ้นก่อน
สิ่งที่เป็นนิมิตมาก่อน คือ แสงเงินแสงทอง สิ่งที่เป็นเบื้องต้น เป็นนิมิตมาก่อน เพื่อความ
บังเกิดแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ของภิกษุ คือ ความถึงพร้อมแห่งการกระทำไว้ในใจ
โดยแยบคาย ฉันนั้นเหมือนกัน ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจ
โดยแยบคาย พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่ง
อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘.
 [๑๓๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ย่อม
เจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่าง
ไร? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิอันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไป
ในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปใน
การสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ย่อมเจริญอริยมรรค
อันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.
		           จบ สูตรที่ ๗