พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/312/313
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
นา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ ขอพระผู้มีพระภาคจงรับ ขอพระสุคต จงรับ เวลา
นี้เป็นเวลาที่พระสุคต (พระผู้มีพระภาค) ควรรับ บัดนี้ พราหมณ์และคฤหบดี ชาวนิคมและ
ชาวชนบท จักพากันหลั่งไหลไปทางที่พระผู้มีพระภาคเสด็จไป เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดใหญ่ตก
น้ำย่อมไหลไปตามที่ลุ่ม ฉะนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะพระผู้มีพระภาคทรงมีศีลและปัญญาณะ ฯ
พ. ดูกรนาคิตะ เราอย่าได้ติดยศ และยศอย่าติดเรา ดูกรนาคิตะ ผู้ใดเป็นผู้ไม่
ได้ตามความปรารถนา ไม่ได้โดยไม่ยาก ไม่ได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งสุขอันเกิดแต่เนกขัมมะ สุข
อันเกิดแต่วิเวก สุขอันเกิดแต่ความสงบ สุขอันเกิดแต่ความตรัสรู้ ซึ่งเราได้ตามความปรารถนา
ได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก ผู้นั้นพึงยินดีสุขอันเกิดแต่ของไม่สะอาด สุขที่เกิดเพราะการ
หลับ สุขที่เกิดเพราะลาภสักการะและการสรรเสริญ ดูกรนาคิตะ เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ ผู้อยู่
ใกล้บ้านผู้นั่งเข้าสมาธิอยู่ใกล้บ้าน เราย่อมมีความคิดอย่างนี้ว่า บัดนี้ ไฉนคนวัดจักยังท่านผู้มี
อายุรูปนี้ให้สืบต่อสมาธินั้นได้ หรือสามเณรจักยังท่านผู้มีอายุนั้นได้ หรือสามเณรจักยังท่านผู้มี
อายุนั้นให้เลื่อนจากสมาธิ ฉะนั้น เราจึงไม่พอใจด้วยการอยู่ใกล้บ้านของภิกษุนั้น อนึ่ง เราเห็น
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตรนั่งโงกง่วงอยู่ในป่า เราย่อมมีความคิดอย่างนี้ว่า บัดนี้
ท่านผู้มีอายุรูปนี้ จักบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยเพราะการนอนนี้ แล้วกระทำอรัญญสัญญาไว้ในใจ
เป็นเอกัคคตา ฉะนั้น เราจึงพอใจด้วยการอยู่ในป่าของภิกษุรูปนั้น อนึ่ง เราเห็นภิกษุในธรรมวินัย
นี้ ผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตร ไม่มีจิตเป็นสมาธินั่งอยู่ในป่า เรามีความคิดอย่างนี้ว่า บัดนี้ ท่านผู้มีอายุ
รูปนี้ จักตั้งจิตที่ไม่เป็นสมาธิให้เป็นสมาธิ หรือจักตามรักษาจิตที่เป็นสมาธิไว้ ฉะนั้น เราจึง
พอใจด้วยการอยู่ในป่าของภิกษุนั้นอนึ่ง เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ ผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตร มีจิต
เป็นสมาธินั่งอยู่ในป่าเรามีความคิดอย่างนี้ว่า บัดนี้ ท่านผู้มีอายุรูปนี้ จักเปลื้องจิตที่ยังไม่หลุด
พ้นให้หลุดพ้นหรือจักตามรักษาจิตที่หลุดพ้นแล้วไว้ ฉะนั้น เราจึงพอใจด้วยการอยู่ป่าของภิกษุ
นั้น อนึ่ง เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ อยู่ใกล้บ้าน ได้จีวร บิณฑบาตเสนาสนะและคิลาน
ปัจจัยเภสัชบริขาร เธอพอใจลาภ สักการะและการสรรเสริญนั้นย่อมละทิ้งการหลีกออกเร้น ย่อม
ละทิ้งเสนาสนะสงัดอันตั้งอยู่ในราวป่า มารวมกันอยู่ยังบ้าน นิคม และราชธานี ฉะนั้น เราจึง
ไม่พอใจด้วยการอยู่ใกล้บ้านของภิกษุนั้น อนึ่ง เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ ผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตร
ได้จีวร บิณฑบาตเสนาสนะและคิลานปัจจัย เภสัชบริขาร เธอละลาภ สักการะและการสรรเสริญ
นั้น ย่อมไม่ละทิ้งการหลีกออกเร้น ย่อมไม่ละทิ้งเสนาสนะสงัดอันตั้งอยู่ในราวป่า ฉะนั้น เราจึง