พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/314/314
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
ธรรมิกวรรคที่ ๕
๑. นาคสูตร
[๓๑๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่าน
อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เวลาเช้าพระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรง
ถือบาตรจีวรเสด็จเข้าไปบิณฑบาตในพระนครสาวัตถี ครั้นเสด็จกลับจากบิณฑบาตภายหลังภัตแล้ว
ตรัสเรียกท่านพระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์ มาเถิด เราจักเข้าไปยังปราสาทของมิคารมารดา ที่บุพพา
รามวิหาร เพื่อพักผ่อนกลางวัน ท่านพระอานนท์ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ลำดับนั้น พระผู้มี
พระภาคพร้อมกับท่านพระอานนท์ได้เสด็จเข้าไปยังปราสาทของมิคารมารดา ที่บุพพารามวิหาร ครั้ง
นั้น เวลาเย็น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่เร้นแล้ว ตรัสเรียกท่านพระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์
มาเถิด เราจักไปยังท่าน้ำชื่อบุพพโกฏฐกะ เพื่อสรงน้ำ ท่านพระอานนท์ทูลรับพระผู้มีพระภาค
แล้ว ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคพร้อมกับท่านพระอานนท์ ได้เสด็จเข้าไปยังท่าน้ำชื่อบุพพโกฏฐกะ
เพื่อสรงน้ำ ครั้นสรงแล้ว เสด็จขึ้นมา ทรงนุ่งอันตรวาสกได้ยืนผึ่งพระวรกายอยู่ ฯ
ก็สมัยนั้น พระเสวตกุญชรของพระเจ้าปเสนทิโกศล ขึ้นมาจากท่าน้ำชื่อบุพพโกฏฐกะ
เพราะเสียงดนตรีใหญ่ที่เขาตีประโคม ก็มหาชนเห็นช้างนั้นแล้วกล่าวชมอย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้เจริญ
ช้างของพระราชางามยิ่งนัก ช้างของพระราชาน่าดูนัก ช้างของพระราชาน่าเลื่อมใสนัก ช้างของ
พระราชามีอวัยวะสมบูรณ์ ฯ
เมื่อมหาชนกล่าวชมอย่างนี้แล้ว ท่านพระกาลุทายีได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ มหาชนเห็นช้างเชือกใหญ่ สูง มีอวัยวะสมบูรณ์เท่านั้นหรือหนอ จึงได้กล่าว
อย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้เจริญ ช้างเป็นสัตว์ประเสริฐหนอ หรือว่ามหาชนเห็นสัตว์บางอย่างแม้อื่น
ที่ใหญ่ สูง มีอวัยวะสมบูรณ์ จึงได้กล่าวอย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้เจริญ สัตว์นั้นประเสริฐหนอ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรกาลุทายี มหาชนเห็นช้างเชือกใหญ่ สูงมีอวัยวะสมบูรณ์
บ้าง จึงได้กล่าวชมอย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้เจริญ ช้างเป็นสัตว์ประเสริฐหนอ มหาชนเห็นม้าตัว
ใหญ่ สูงบ้าง โคตัวใหญ่ สูงบ้าง งูตัวใหญ่ ยาวบ้างต้นไม้ใหญ่ สูงบ้าง มนุษย์ผู้มีร่างกายใหญ่