พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/316/359
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
พระตถาคตผู้ล่วงกิเลสเครื่องข้อง ไม่มีธรรมเป็นเครื่องข้อง ไม่เป็น
สัตว์ผู้มีมานะในเหล่าสัตว์ผู้มีมานะ กำหนดรู้ทุกข์พร้อมทั้งไร่นาและที่
ดิน ย่อมควรเครื่องบูชา พระตถาคตไม่อาศัยตัณหา มีปรกติเห็น
นิพพาน ก้าวล่วงทิฐิที่จะพึงให้ผู้อื่นรู้ ไม่มีอารมณ์อะไรๆย่อมควร
เครื่องบูชา ธรรมทั้งที่เป็นภายในและภายนอกพระตถาคตแทงตลอด
แล้ว กำจัดได้แล้ว ถึงความสาปสูญมิได้มี พระตถาคตนั้นเป็นผู้สงบ
แล้ว น้อมไปในธรรมเป็นที่สิ้นอุปาทาน ย่อมควรเครื่องบูชา
พระตถาคตเห็นที่สุดแห่งความสิ้นไปแห่งชาติ บรรเทาสังโยชน์อันเป็น
ทางแห่งราคะเสียได้ไม่มีส่วนเหลือ เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีโทษ ปราศจาก
มลทิน ไม่มีความใคร่ ย่อมควรเครื่องบูชา พระตถาคตไม่พิจารณาเห็น
ตนโดยความเป็นตน มีจิตตั้งมั่น ปฏิบัติตรง ดำรงตนมั่น ไม่หวั่นไหว
ไม่มีกิเลสดุจหลักตอ ไม่มีความสงสัย ย่อมควรเครื่องบูชาพระตถาคต
ไม่มีปัจจัยแห่งโมหะอะไรๆ เห็นด้วยญาณในธรรมทั้งปวง ทรงไว้ซึ่ง
สรีระมีในที่สุด และได้บรรลุสัมโพธิญาณที่ยอดเยี่ยม อันเกษม ความ
บริสุทธิ์ของบุรุษย่อมมีด้วยเหตุเพียงเท่านี้ (พระตถาคตย่อมควร
เครื่องบูชา) ฯ
พราหมณ์ทูลว่า
ก็การบูชาของข้าพระองค์ จะเป็นการบูชาจริง เพราะว่าข้าพระองค์ได้
บุคคลผู้ถึงเวทเช่นนั้น พระผู้มีพระภาคเป็นพรหม ผู้เห็นเองแท้ ขอได้
โปรดทรงรับ ทรงบริโภคเครื่องบูชาของข้าพระองค์เถิด ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรพราหมณ์ เราไม่พึงบริโภคโภชนะที่ขับกล่อมได้มา ข้อนี้ไม่ใช่
ธรรมเนียมของพระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้ทรงเห็นอยู่โดยชอบ พระพุทธเจ้า
ทั้งหลาย ย่อมทรงห้ามโภชนะที่ขับกล่อมได้มา ดูกรพราหมณ์ เมื่อ
ธรรมมีอยู่ การแสวงหาเป็นความประพฤติของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ก็
ท่านจงบำรุงพระขีณาสพผู้บริบูรณ์ด้วยคุณทั้งปวง ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่