พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/320/362

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เล่ม 25
หน้า 320
ปราศจากความกำหนัด เป็นผู้ไม่โกรธไม่มีคติ เพราะละขันธ์อันเป็น ไปในโลกนี้ได้เด็ดขาดพราหมณ์พึงหลั่งไทยธรรมบูชาในชนเหล่านั้น ตามกาล ชนเหล่าใดละชาติและมรณะไม่มีส่วนเหลือ ล่วงพ้นความ สงสัยได้ทั้งปวง พราหมณ์พึงหลั่งไทยธรรมบูชาในชนเหล่านั้นตามกาล ชนเหล่าใดมีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีเครื่องกังวลหลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง เที่ยวไปอยู่ในโลก พราหมณ์พึงหลั่งไทยธรรมบูชาในชนเหล่านั้นตาม กาล ชนเหล่าใดแล ย่อมรู้ในขันธ์และอายตนะเป็นต้นตามความเป็น จริงว่าชาตินี้มีในที่สุด ภพใหม่ไม่มี ดังนี้ พราหมณ์พึงหลั่งไทยธรรม บูชาในชนเหล่านั้นตามกาล ชนเหล่าใดเป็นผู้ถึงเวท ยินดีในฌาน มี สติ บรรลุธรรมเครื่องตรัสรู้ดี เป็นที่พึ่งของเทวดาและมนุษย์เป็นอัน มาก พราหมณ์ผู้มุ่งบุญพึงหลั่งไทยธรรมบูชาในชนเหล่านั้นตามกาล ฯ ม. คำถามของข้าพระองค์ไม่เปล่าประโยชน์แน่นอน ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระองค์ตรัสบอกทักขิไณยบุคคลแก่ข้าพระองค์แล้ว ก็พระองค์ย่อมทรง ทราบไญยธรรมนี้ ในโลกนี้โดยถ่องแท้ จริงอย่างนั้น ธรรมนี้พระองค์ทรง ทราบแจ่มแจ้งแล้ว ผู้ใดเป็นคฤหัสถ์ เป็นผู้ควรแก่การขอ เป็นทานบดี มีความต้องการบุญ มุ่งบุญ ให้ข้าวน้ำบูชาแก่ชนเหล่าอื่นในโลกนี้ ข้า แต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์ตรัสบอกถึงความพร้อมแห่งยัญแก่ข้า พระองค์ ฯ พ. ดูกรมาฆะ เมื่อท่านจะบูชาก็จงบูชาเถิด และจงทำจิตให้ผ่องใสในกาล ทั้งปวง เพราะยัญย่อมเป็นอารมณ์ของบุคคลผู้บูชายัญบุคคลตั้งมั่น ในยัญนี้แล้ว ย่อมละโทสะเสียได้ อนึ่ง บุคคลผู้นั้น ปราศจากความ กำหนัดแล้ว พึงกำจัดโทสะ เจริญเมตตาจิตอันประมาณมิได้ ไม่ประมาท แล้วเนืองๆ ทั้งกลางคืนกลางวัน ย่อมแผ่อัปปมัญญาภาวนาไปทั่วทิศ ฯ ม. ใครย่อมบริสุทธิ์ ใครย่อมหลุดพ้น และใครยังติดอยู่ บุคคลจะไป พรหมโลกได้ด้วยอะไร ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นมุนีข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอพระองค์โปรดตรัสบอกแก่ข้าพระองค์ผู้ไม่รู้ ก็พระผู้มีพระภาคผู้เป็น