พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/327/673 674 675 676      
      สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
      
     
 
    
        
          
            	      ๑๐.  ธาตุวิภังคสูตร  (๑๔๐)
 [๖๗๓]  ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
	สมัยหนึ่ง  พระผู้มีพระภาคเมื่อเสด็จจาริกไปในมคธชนบท  ทรงแวะยังพระนครราชคฤห์
เสด็จเข้าไปหานายช่างหม้อชื่อภัคควะยังที่อยู่  แล้วตรัสดังนี้ว่าดูกรนายภัคควะ  ถ้าไม่เป็นความ
หนักใจแก่ท่าน  เราจะขอพักอยู่ในโรงสักคืนหนึ่งเถิด  นายภัคควะทูลว่า  ข้าแต่ท่านผู้เจริญ
ข้าพเจ้าไม่มีความหนักใจเลย  แต่ในโรงนี้มีบรรพชิตเข้าไปอยู่ก่อนแล้ว  ถ้าบรรพชิตนั้นอนุญาต
ก็นิมนต์ท่านพักตามสบายเถิด  ฯ
 [๖๗๔]  ก็สมัยนั้นแล  กุลบุตรชื่อปุกกุสาติ  ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตอุทิศ
พระผู้มีพระภาคด้วยศรัทธา  ปุกกุสาติกุลบุตรนั้นเข้าไปพักอยู่ในโรงของนายช่างหม้อนั้นก่อนแล้ว
ครั้งนั้นแล  พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปหาท่าน  ปุกกุสาติยังที่พัก  แล้วตรัสกะท่านปุกกุสาติดังนี้ว่า
ดูกรภิกษุ  ถ้าไม่เป็นความหนักใจแก่ท่าน  เราจะขอพักอยู่ในโรงสักคืนหนึ่งเถิด  ท่านปุกกุสาติ
ตอบว่า  ดูกรท่านผู้มีอายุ  โรงช่างหม้อกว้างขวาง  นิมนต์ท่านผู้มีอายุพักตามสบายเถิด  ฯ
 [๖๗๕]  ลำดับนั้น  พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปสู่โรงช่างหม้อแล้ว  ทรงลาดสันถัดหญ้า
ณ  ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง  ประทับนั่งคู้บัลลังก์  ตั้งพระกายตรง  ดำรงพระสติมั่นเฉพาะหน้า  พระองค์
ประทับนั่งล่วงเลยราตรีไปเป็นอันมาก  แม้ท่าน  ปุกกุสาติก็นั่งล่วงเลยราตรีไปเป็นอันมากเหมือนกัน
ครั้งนั้น  พระผู้มีพระภาคทรงพระดำริดังนี้ว่า  กุลบุตรนี้ประพฤติน่าเลื่อมใสหนอ  เราควรจะถาม
ดูบ้าง  ต่อนั้นพระองค์จึงตรัสถามท่านปุกกุสาติดังนี้ว่า  ดูกรภิกษุ  ท่านบวช  อุทิศใครเล่า
หรือว่า  ใครเป็นศาสดาของท่าน  หรือท่านชอบใจธรรมของใคร  ฯ
 [๖๗๖]  ท่านปุกกุสาติตอบว่า  ดูกรท่านผู้มีอายุ  มีพระสมณโคดมผู้ศากยบุตร  เสด็จ
ออกจากศากยราชสกุลทรงผนวชแล้ว  ก็พระโคดมผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแล  มีกิตติศัพท์ฟุ้งไป
 งามอย่างนี้ว่า  แม้เพราะเหตุดังนี้ๆ  พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเป็นผู้ไกลจากกิเลส  รู้เองโดยชอบ