พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/335/694 695 696      
      สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
      
     
 
    
        
          
            สำคัญตนและกิเลสเครื่องหมักหมม  เป็นไป  ก็เมื่อกิเลสเครื่องสำคัญตนและกิเลสเครื่องหมัก
หมม  ไม่เป็นไปอยู่  บัณฑิตจะเรียกเขาว่า  มุนีผู้สงบแล้ว  นั่นเราอาศัยเนื้อความดังนี้  กล่าว
แล้ว  ดูกรภิกษุ  ท่านจงทรงจำธาตุวิภังค์  ๖  โดยย่อนี้  ของเราไว้เถิด  ฯ
 [๖๙๔]  ลำดับนั้นแล  ท่านปุกกุสาติทราบแน่นอนว่า  พระศาสดา  พระสุคต  พระสัมมา
สัมพุทธเจ้า  เสด็จมาถึงแล้วโดยลำดับ  จึงลุกจากอาสนะทำจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง  ซบเศียรลง
แทบพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาค  แล้วทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  โทษ
ล่วงเกินได้ต้องข้าพระองค์เข้า  แล้ว  ผู้มีอาการโง่เขลา  ไม่ฉลาด  ซึ่งข้าพระองค์ได้สำคัญถ้อยคำที่
เรียกพระผู้มีพระภาคด้วยวาทะว่า  ดูกรท่านผู้มีอายุ  ขอพระผู้มีพระภาคจงรับอดโทษล่วงเกินแก่
ข้าพระองค์  เพื่อจะสำรวมต่อไปเถิด  ฯ
 [๖๙๕]  พ.  ดูกรภิกษุ  เอาเถอะ  โทษล่วงเกินได้ต้องเธอผู้มีอาการโง่เขลา  ไม่ฉลาด
ซึ่งเธอได้สำคัญถ้อยคำที่เรียกเราด้วยวาทะว่า  ดูกรท่านผู้มีอายุแต่เพราะเธอเห็นโทษล่วงเกินโดย
ความเป็นโทษแล้วกระทำคืนตามธรรม  เราขอรับอดโทษนั้นแก่เธอ  ดูกรภิกษุ  ก็ข้อที่บุคคลเห็น
โทษล่วงเกินโดยความเป็นโทษแล้วกระทำคืนตามธรรม  ถึงความสำรวมต่อไปได้  นั่นเป็นความ
เจริญในอริยวินัย  ฯ
	ปุ.  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ขอข้าพระองค์พึงได้อุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาค
เถิด  ฯ
	พ.  ดูกรภิกษุ  ก็บาตรจีวรของเธอครบแล้วหรือ  ฯ
	ปุ.  ยังไม่ครบ  พระพุทธเจ้าข้า  ฯ
	พ.  ดูกรภิกษุ  ตถาคตทั้งหลาย  จะให้กุลบุตรผู้มีบาตรและจีวรยังไม่ครบ  อุปสมบทไม่ได้
เลย  ฯ
 [๖๙๖]  ลำดับนั้น  ท่านปุกกุสาติ  ยินดี  อนุโมทนาพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้ว
ลุกจากอาสนะ  ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคกระทำประทักษิณแล้วหลีกไปหาบาตรจีวร  ทันใดนั้น
แล  แม่โคได้ปลิดชีพท่านปุกกุสาติ  ผู้กำลังเที่ยวหาบาตรจีวรอยู่  ต่อนั้น  ภิกษุมากรูปด้วยกัน  ได้
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับแล้วถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค  นั่ง  ณ  ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
พอนั่งเรียบร้อยแล้วได้ทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  กุลบุตรชื่อปุกกุสาติที่