พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/341/705      
      สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
      
     
 
    
        
          
            	ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย  ก็สัมมาสติเป็นไฉน  คือ  ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้พิจารณา
เห็นกายในกาย  มีความเพียร  รู้สึกตัว  มีสติ  กำจัดอภิชฌาและ โทมนัสในโลกเสียได้อยู่  เป็น
ผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา  ...  เป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิต  ...  เป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรม
 มีความเพียร  รู้สึกตัว  มีสติกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้อยู่  นี้เรียกว่าสัมมาสติ  ฯ
	ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย  ก็สัมมาสมาธิเป็นไฉน  คือ  ภิกษุในธรรมวินัยนี้  สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรม  เข้าปฐมฌาน  มีวิตก  มีวิจาร  มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่  เข้าทุติยฌาน
มีความผ่องใสแห่งใจภายใน  มีความเป็นธรรมเอกผุดขึ้น  ไม่มีวิตก  ไม่มีวิจาร  เพราะสงบวิตก
และวิจารเสีย มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่   เข้าตติยฌาน  ...  อยู่  เข้าจตุตถฌาน  ...  อยู่นี้เรียก
ว่าสัมมาสมาธิ  ฯ
	ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย  นี้เรียกว่า  ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ  ฯ
 [๗๐๕]  ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย  พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงประกาศ
ธรรมจักรอันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า  ที่ป่าอิสิปตนมิคทายวัน  เขตเมืองพาราณสี  อันสมณะ  หรือ
พราหมณ์  หรือเทวดา  หรือมาร  หรือพรหม  หรือใครๆ  ในโลก  ยังไม่เคยประกาศ  ได้แก่  ทรง
บอก  ทรงแสดง  ทรงบัญญัติทรงแต่งตั้ง  ทรงเปิดเผย  ทรงจำแนก  ทรงทำให้ง่ายซึ่งอริยสัจ
๔  นี้  ฯ
	ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวดังนี้แล้ว  ภิกษุเหล่านั้นต่างชื่นชมยินดีภาษิตของท่านพระสารี
บุตรแล  ฯ
	      จบ  สัจจวิภังคสูตร  ที่  ๑๑
	    _______________