พระสุตตันตปิฎกไทย: 12/345/455

สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
เล่ม 12
หน้า 345
เว้นขาดจากการพรากพืชคาม และภูตคาม. ฉันหนเดียว เว้นจากการฉันในราตรี งดจากการฉันในเวลาวิกาล. เว้นขาดจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล. เว้นขาดจากการทัดทรงประดับและตบแต่งร่างกายด้วยดอกไม้ของหอม และเครื่องประ เทืองผิวอันเป็นฐานแห่งการแต่งตัว. เว้นขาดจากการนั่งนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่. เว้นขาดจากการรับทองและเงิน. เว้นขาดจากการรับธัญญาหารดิบ. เว้นขาดจากการรับเนื้อดิบ. เว้นขาดจากการรับสตรีและกุมารี. เว้นขาดจากการรับทาสีและทาส. เว้นขาดจากการรับไร่นาและที่ดิน. เว้นขาดจากการรับแพะและแกะ. เว้นขาดจากการรับไก่และสุกร. เว้นขาดจากการรับช้าง โค ม้า และลา. เว้นขาดจากการประกอบทูตกรรมและการรับใช้. เว้นขาดจากการซื้อและการขาย. เว้นขาดจากการโกงด้วยตราชั่ง การโกงด้วยของปลอม และการโกงด้วยเครื่องตวงวัด. เว้นขาดจากการรับสินบน การล่อลวง และการตลบตะแลง. เว้นขาดจากการตัด การฆ่า การจองจำ การตีชิง การปล้น และการกรรโชก. ภิกษุนั้นเป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหาร ท้อง จะไปทางทิศาภาคใดๆ ก็ถือไปได้เอง นกมีปีก จะบินไปทางทิศาภาคใดๆ ก็มีแต่ปีกของ ของตัวเป็นภาระบินไป ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นแล เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วย บิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง เธอจะไปทางทิศาภาคใดๆ ก็ถือไปได้เอง. ภิกษุนั้นประกอบด้วยศีลขันธ์อันเป็นอริยะเช่นนี้ ย่อมเสวยสุขอันไม่มีโทษในภายใน.