พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/348/388
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เป็นผู้มีจิตเฟื่องฟู ดีใจ ได้รับเอาด้วยมือทั้งสองครั้นแล้ว อสิตฤาษี
ผู้เรียนจบลักษณะมนต์ พิจารณาพระราชกุมารผู้ประเสริฐ มีจิตเลื่อมใส
ได้เปล่งถ้อยคำว่า พระกุมารนี้ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า สูงสุดกว่าสัตว์สองเท้า
ทีนั้น อสิตฤาษีหวนระลึกถึงการบรรลุอรูปฌานของตน เป็นผู้เสียใจถึง
น้ำตาตก เจ้าศากยะทั้งหลายได้ทอดพระเนตรเห็นอสิตฤาษีร้องไห้จึง
ตรัสถามว่า ถ้าอันตรายจักมีในพระกุมารหรือหนอ อสิตฤาษีได้ทูล
เจ้าศากยะทั้งหลายผู้ทอดพระเนตรเห็นแล้ว ไม่ทรงพอพระทัยว่า อาตม
ภาพระลึกถึงกรรมอันไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูลในพระกุมารหามิได้ อนึ่ง
แม้อันตรายก็จักไม่มีแก่พระกุมารนี้ พระกุมารนี้เป็นผู้ไม่ทราม ขอ
มหาบพิตรทั้งหลายจงเป็นผู้ดีพระทัยเถิด พระกุมารนี้จักทรงบรรลุ
พระสัพพัญญุตญาณ พระกุมารนี้จักทรงเห็นนิพพานอันบริสุทธิ์อย่างยิ่ง
ทรงหวังประโยชน์แก่ชนเป็นอันมาก จักทรงประกาศธรรมจักร พรหม
จรรย์ของพระกุมารนี้จักแพร่หลาย แต่อายุของอาตมภาพ จักไม่ดำรงอยู่
ได้นานในกาลนี้ อาตมภาพจักกระทำกาละเสียในระหว่างนี้ จักไม่ได้
ฟังธรรมของพระกุมารผู้มีความเพียรไม่มีบุคคลผู้เสมอ เพราะเหตุนั้น
อาตมภาพจึงเป็นผู้เร่าร้อนถึงความพินาศ ถึงความทุกข์ อสิตฤาษียังปีติ
อันไพบูลย์ให้เกิดแก่เจ้าศากยะทั้งหลายแล้ว ออกจากพระราชวัง ไป
ประพฤติพรหมจรรย์ เมื่อจะอนุเคราะห์หลานของตน ได้ให้หลาน
สมาทานในธรรมของพระผู้มีพระภาคผู้มีความเพียรไม่มีบุคคลผู้เสมอ
แล้วกล่าวว่า ในกาลข้างหน้าเจ้าได้ยินเสียงอันระบือไปว่า พุทโธ
ดังนี้ไซร้ พระผู้มีพระภาค ได้ทรงบรรลุพระสัมโพธิญาณแล้ว ย่อมทรง
เปิดเผยทางปรมัตถธรรม เจ้าจงไปทูลสอบถามด้วยตนเอง ในสำนัก
ของพระองค์ แล้วประพฤติพรหมจรรย์ในสำนักพระผู้มีพระภาคพระองค์
นั้นเถิด อสิตฤาษีนั้นผู้มีปรกติเห็นนิพพานอันบริสุทธิ์อย่างยิ่งในอนาคต
มีใจเกื้อกูลเช่นนั้น ได้สั่งสอนนาลกดาบส นาลกดาบสเป็นผู้สั่งสม
บุญไว้ รักษาอินทรีย์รอคอยพระชินสีห์อยู่ นาลกดาบสได้ฟังเสียง