พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/353/394 395 396      
      สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
      
     
 
    
        
          
            	ความหลงใหญ่นี้ เป็นความเที่ยงอยู่สิ้นกาลนาน สัตว์ทั้งหลายผู้ไปด้วย
	วิชชาเท่านั้น ย่อมไม่ไปสู่ภพใหม่ ฯ
 [๓๙๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฯลฯ พึงตอบเขาว่า การพิจารณาเห็นเนืองๆ ว่า ทุกข์
อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งหมด ย่อมเกิดขึ้นเพราะสังขารเป็นปัจจัยนี้เป็นข้อที่ ๑ การพิจารณาเห็น
เนืองๆ ว่า เพราะสังขารทั้งหลายนั่นเองดับไปเพราะสำรอกโดยไม่มีเหลือ ทุกข์จึงไม่เกิด นี้เป็น
ข้อที่ ๒ ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุผู้พิจารณาเห็นเนืองๆ ซึ่งธรรมเป็นธรรม ๒ อย่าง โดยชอบ
อย่างนี้ ฯลฯจึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
	ทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งหมด ย่อมเกิดขึ้นเพราะสังขารเป็นปัจจัย เพราะ
	สังขารทั้งหลายดับโดยไม่เหลือ ทุกข์จึงไม่เกิดภิกษุรู้โทษนี้ว่า
	เพราะสังขารเป็นปัจจัย ทุกข์จึงเกิดขึ้นเพราะความสงบแห่งสังขาร
	ทั้งมวล สัญญาทั้งหลายจึงดับความสิ้นไปแห่งทุกข์ย่อมมีได้ด้วยอาการ
	อย่างนี้ ภิกษุรู้ความสิ้นไปแห่งทุกข์นี้โดยถ่องแท้ บัณฑิตทั้งหลายผู้
	เห็นชอบผู้ถึงเวทย์ รู้โดยชอบแล้ว ครอบงำกิเลสเป็นเครื่องประกอบ
	ของมารได้แล้ว ย่อมไม่ไปสู่ภพใหม่ ฯ
 [๓๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฯลฯ พึงตอบเขาว่า การพิจารณาเห็นเนืองๆ ว่า ทุกข์
อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งหมด ย่อมเกิดขึ้นเพราะวิญญาณเป็นปัจจัยนี้เป็นข้อที่ ๑ การพิจารณาเห็น
เนืองๆ ว่า เพราะวิญญาณนั่นเองดับเพราะสำรอกโดยไม่เหลือ ทุกข์จึงไม่เกิด นี้เป็นข้อที่ ๒
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้พิจารณาเห็นเนืองๆ ซึ่งธรรมเป็นธรรม ๒ อย่างโดยชอบอย่างนี้ ฯลฯ
จึงตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
	ทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งหมด ย่อมเกิดขึ้นเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
	เพราะวิญญาณดับโดยไม่เหลือ ทุกข์จึงไม่เกิด ภิกษุรู้โทษนี้ว่า ทุกข์
	ย่อมเกิดขึ้น เพราะวิญญาณเป็นปัจจัยดังนี้แล้ว ย่อมเป็นผู้หายหิว ดับ
	รอบแล้วเพราะความเข้าไปสงบแห่งวิญญาณ ฯ
 [๓๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฯลฯ พึงตอบเขาว่า การพิจารณาเห็นเนืองๆ ว่า ทุกข์
อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งหมด ย่อมเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัยนี้เป็นข้อที่ ๑ การพิจารณาเห็นเนืองๆ