พระสุตตันตปิฎกไทย: 19/358/1473 1474 1475 1476
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
ใคร่แล้ว ... เป็นไปเพื่อสมาธิ นี้แล คือ ธรรมปริยายชื่อธรรมาทาส ที่อริยสาวกประกอบแล้ว ...
จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า.
จบ สูตรที่ ๘
คิญชกาวสถสูตรที่ ๒
ว่าด้วยธรรมปริยายชื่อธรรมาทาส
[๑๔๗๓] (ข้อความเบื้องต้นเหมือนคิญชกาวสถสูตรที่ ๑) ครั้นแล้ว ท่านพระอานนท์
ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุชื่ออโสกะมรณภาพแล้ว คติของเธอ
เป็นอย่างไร สัมปรายภพของเธอเป็นอย่างไร? ภิกษุณีชื่ออโสกามรณภาพแล้ว ฯลฯ อุบาสก
ชื่ออโสกะกระทำกาละแล้ว ฯลฯ อุบาสิกาชื่ออโสกากระทำกาละแล้ว คติของเขาเป็นอย่างไร
สัมปรายภพของเขาเป็นอย่างไร?
[๑๔๗๔] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ภิกษุชื่ออโสกะมรณภาพแล้ว กระทำ
ให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอัน
ยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ภิกษุณีชื่ออโสกา ... อุบาสกชื่ออโสกะ ... อุบาสิกาชื่ออโสกา
กระทำกาละแล้ว เป็นพระโสดาบัน เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา
เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า.
[๑๔๗๕] ดูกรอานนท์ นี้แล คือ ธรรมปริยายชื่อธรรมาทาส ที่อริยสาวกประกอบแล้ว
เมื่อหวังอยู่ พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า เรามีนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ปิตติวิสัย อบาย
ทุคติ วินิบาต สิ้นแล้ว เราเป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้
เป็นเบื้องหน้า.
จบ สูตรที่ ๙
คิญชกาวสถสูตรที่ ๓
ว่าด้วยธรรมปริยายชื่อธรรมาทาส
[๑๔๗๖] (ข้อความเบื้องต้นเหมือนคิญชกาวสถสูตรที่ ๑) ครั้นแล้ว ท่านพระอานนท์
ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุบาสกชื่อกกุฏะในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง กระทำ