พระสุตตันตปิฎกไทย: 13/391/571 572
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
๑๐. กรรณกัตถลสูตร
ว่าด้วยเหตุการณ์ที่ตำบลกรรณกัตถลมิคทายวัน
[๕๗๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ตำบลกรรณกัตถลมิคทายวัน ใกล้อุทัญญานคร.
ก็สมัยนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จไปถึงอุทัญญานครด้วยพระราชกรณียะบางอย่าง. ครั้งนั้น
พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสเรียกบุรุษคนหนึ่งมารับสั่งว่า ดูกรบุรุษผู้เจริญ มานี่แน่ะ ท่านจงเข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ แล้วถวายบังคมพระยุคลบาทด้วยเศียรเกล้า จงทูลถามถึงความ
มีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปี้กระเปร่า มีพระกำลัง ทรงพระสำราญ ตามคำ
ของเราว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเจ้าปเสนทิโกศลขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มี
พระภาคด้วยพระเศียรเกล้า ทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปี้
กระเปร่า มีพระกำลัง ทรงพระสำราญ และจงกราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทราบ
ด้วยเกล้าว่าวันนี้พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระกระยาหารเช้าแล้ว เวลาบ่ายจักเสด็จเข้ามาเฝ้า
พระผู้มีพระภาค. บุรุษนั้นทูลรับสนองพระบรมราชโองการแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่
ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระเจ้าปเสนทิโกศล ขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคด้วยพระเศียรเกล้า ทรงทูล
ถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระเปร่า ทรงพระกำลัง ทรงพระ
สำราญ และรับสั่งมาทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทราบว่า วันนี้พระเจ้าปเสนทิโกศล
เสวยพระกระยาหารเช้าแล้ว เวลาบ่ายจักเสด็จมาเฝ้าพระผู้มีพระภาค พระเจ้าข้า.
[๕๗๒] พระราชภคินีทรงพระนามว่าโสมา และพระราชภคินีทรงพระนามว่าสกุลา ได้
ทรงสดับข่าวว่า ได้ทราบว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระกระยาหารเช้าเสร็จ เวลาบ่ายจะเสด็จ
ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค. ลำดับนั้นแล พระราชภคินีพระนามว่าโสมา และพระราชภคินีพระนาม