พระสุตตันตปิฎกไทย: 13/392/573
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
ว่าสกุลา เสด็จเข้าไปเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศลในที่เสวยพระกระยาหาร แล้วได้กราบทูลว่า
ข้าแต่มหาราชา ถ้าเช่นนั้น ขอพระองค์ทรงถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคด้วยพระ
เศียรเกล้า จงทรงถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระเปร่า ทรง
พระกำลัง ทรงพระสำราญ ตามคำของหม่อมฉันทั้งหลายว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภคินี
นามว่าโสมา และพระภคินีนามว่าสกุลาขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคด้วยเศียร
เกล้า ทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระเปร่า ทรงพระกำลัง
ทรงพระสำราญ.
พระเจ้าปเสนทิโกศลเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
[๕๗๓] ลำดับนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระกระยาหารเช้าเสร็จแล้ว เวลาบ่าย
เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ทรงถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วประทับนั่ง ณ ที่
ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภคินีนามว่า
โสมา และพระภคินีนามว่าสกุลา ขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาค ทูลถามถึง
ความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระเปร่า ทรงพระกำลัง ทรงพระสำราญ
พระเจ้าข้า. พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรมหาบพิตร ก็พระราชภคินีพระนามว่าโสมาและ
พระราชภคินีพระนามว่าสกุลา ไม่ทรงได้ผู้อื่นเป็นทูตแล้วหรือ ขอถวายพระพร?
ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระภคินีนามว่าโสมา และพระภคินีนามว่าสกุลา ได้สดับ
ข่าวว่า วันนี้หม่อมฉันบริโภคอาหารเช้าแล้ว เวลาบ่ายจักมาเฝ้าพระผู้มีพระภาค ลำดับนั้น
พระภคินีพระนามว่าโสมา และภคินีพระนามว่าสกุลา ได้เข้ามาหาหม่อมฉันในที่บริโภคอาหาร
แล้วตรัสสั่งว่า ข้าแต่มหาราช ถ้าเช่นนั้น ขอพระองค์ทรงถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มี
พระภาคด้วยเศียรเกล้า ขอให้ทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้
กระเปร่า ทรงพระกำลัง ทรงพระสำราญ พระภคินีพระนามว่าโสมา และพระภคินีพระนามว่า
สกุลา ถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า และทูลถามความมีพระ
อาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกระปรี้กระเปร่า ทรงพระกำลัง ทรงพระสำราญ พระเจ้าข้า.