พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/404/431      
      สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
      
     
 
    
        
          
            	พ. ดูกรอุปสีวะ ท่านผู้ถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ ไม่มีประมาณ ชนทั้งหลายจะ
	พึงกล่าวท่านผู้นั้นด้วยกิเลสมีราคะเป็นต้นใด กิเลสมีราคะเป็นต้นนั้น
	ของท่านไม่มี เมื่อธรรม (มีขันธ์เป็นต้น)ทั้งปวง ท่านเพิกถอนขึ้นได้
	แล้ว แม้ทางแห่งถ้อยคำทั้งหมดก็เป็นอันท่านเพิกถอนขึ้นได้แล้ว ฯ
			จบอุปสีวมาณวกปัญหาที่ ๖
				นันทปัญหาที่ ๗
 [๔๓๑] นันทมาณพผู้ทูลถามปัญหาว่า
	ชนทั้งหลายกล่าวว่า มุนีทั้งหลายมีอยู่ในโลก ชนทั้งหลายกล่าวบุคคลว่า
	เป็นมุนีนี้นั้น ด้วยอาการอย่างไรหนอ ชนทั้งหลายกล่าวบุคคลผู้ประกอบ
	ด้วยญาณ หรือผู้ประกอบด้วยความเป็นอยู่ ว่าเป็นมุนี ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสพยากรณ์ว่า
	ดูกรนันทะ ผู้ฉลาดในโลกนี้ ไม่กล่าวบุคคลว่าเป็นมุนี ด้วยความเห็น
	ด้วยความสดับ หรือด้วยความรู้ (ด้วยศีลและวัตร) ชนเหล่าใดกำจัด
	เสนามารให้พินาศแล้ว ไม่มีความทุกข์ ไม่มีความหวัง เที่ยวไปอยู่
	เรากล่าวชนเหล่านั้นว่าเป็นมุนี ฯ
	น. ข้าแต่พระผู้มีพระภาค สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งกล่าวความ
	บริสุทธิ์ด้วยความเห็นบ้าง ด้วยการฟังบ้าง ด้วยศีลและพรตบ้าง ด้วย
	มงคลตื่นข่าวเป็นต้นเป็นอันมากบ้างข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้นิรทุกข์
	สมณพราหมณ์เหล่านั้นประพฤติอยู่ในทิฐิของตนนั้น ตามที่ตนเห็น
	ว่าเป็นเครื่องบริสุทธิ์ ข้ามพ้นชาติและชราได้บ้างหรือไม่ ข้าแต่พระผู้มี
	พระภาค ข้าพระองค์ขอทูลถามพระองค์ ขอพระองค์ตรัสบอกความ
	ข้อนั้นแก่ข้าพระองค์เถิด ฯ
	พ. ดูกรนันทะ สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง กล่าวความบริสุทธิ์ด้วย
	ความเห็นบ้าง ด้วยการฟังบ้าง ด้วยศีลและพรตบ้าง ด้วยมงคลตื่นข่าว
	เป็นต้นเป็นอันมากบ้างสมณพราหมณ์เหล่านั้นประพฤติอยู่ในทิฐิของ
	ตนนั้น ตามที่ตนเห็นว่าเป็นเครื่องบริสุทธิ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เรากล่าวว่า
	สมณพราหมณ์เหล่านั้น ข้ามพ้นชาติและชราไปไม่ได้ ฯ