พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/407/434 435
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
กัปปปัญหาที่ ๑๐
[๔๓๔] กัปปมาณพทูลถามปัญหาว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ขอพระองค์จงตรัสบอกซึ่งธรรมอันเป็นที่พึ่งของ
ชนทั้งหลาย ผู้อันชราและมรณะครอบงำแล้วดุจที่พึ่งของชนทั้งหลายผู้
อยู่ในท่ามกลางสาคร เมื่อคลื่นเกิดแล้ว มีภัยใหญ่ฉะนั้น อนึ่ง ขอ
พระองค์จงตรัสบอกที่พึ่งแก่ข้าพระองค์โดยอุบายที่ทุกข์นี้ไม่พึงมีอีก
เถิด ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสพยากรณ์ว่า ดูกรกัปปะ
เราจะบอกธรรม อันเป็นที่พึ่งของชนทั้งหลาย ผู้อันชราและมรณะ
ครอบงำแล้ว ดุจที่พึ่งของชนทั้งหลายผู้อยู่ในท่ามกลางสาคร เมื่อคลื่น
เกิดแล้ว มีภัยใหญ่ แก่ท่านธรรมชาติไม่มีเครื่องกังวล ไม่มีความถือมั่น
นี้เป็นที่พึ่ง หาใช่อย่างอื่นไม่ เรากล่าวที่พึ่งอันเป็นที่สิ้นไปแห่งชราและ
มรณะว่านิพพาน ชนเหล่าใดรู้นิพพานนั้นแล้ว มีสติ มีธรรมอันเห็น
แล้วดับกิเลสได้แล้ว ชนเหล่านั้นไม่อยู่ใต้อำนาจของมารไม่เดินไป
ในทางของมาร ฯ
จบกัปปมาณวกปัญหาที่ ๑๐
ชตุกัณณีปัญหาที่ ๑๑
[๔๓๕] ชตุกัณณีมาณพทูลถามปัญหาว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้มีความเพียร ข้าพระองค์ได้ฟังพระองค์ผู้ไม่ใคร่กาม จึงมา
เฝ้าเพื่อทูลถามพระองค์ผู้ล่วงห้วงน้ำคือกิเลสเสียได้ ไม่มีกาม ข้าแต่
พระองค์ผู้มีพระเนตรคือพระสัพพัญญุตญาณเกิดพร้อมแล้ว ขอพระองค์
ตรัสบอกทางสันติ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกทาง
สันตินั้นแก่ข้าพระองค์ตามจริงเถิด เพราะว่าพระผู้มีพระภาคทรงมีเดช
ครอบงำกามทั้งหลายเสียแล้วด้วยเดช เหมือนพระอาทิตย์มีเดช คือ รัศมี
ครอบงำปฐพีด้วยเดชไปอยู่ในอากาศ ฉะนั้น ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้มี