พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/412/441 442
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
พ. ดูกรปิงคิยะ เมื่อท่านเห็นหมู่มนุษย์ผู้ถูกตัณหาครอบงำแล้วเกิดความ
เดือดร้อน อันชราถึงรอบข้าง ดูกรปิงคิยะ เพราะเหตุนั้น ท่านจงเป็น
คนไม่ประมาทละตัณหาเสีย เพื่อความ
ไม่เกิดอีก ฯ
จบปิงคิยมาณวกปัญหาที่ ๑๖
[๔๔๑] เมื่อพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปาสาณเจดีย์ในมคธชนบทได้ตรัส
ปารายนสูตรนี้ อันพราหมณ์มาณพ ๑๖ คน ผู้เป็นบริวารของพราหมณ์
พาวรี ทูลอาราธนาแล้ว ได้ตรัสพยากรณ์ปัญหา แม้หากว่าการกบุคคล
รู้ทั่วถึงอรรถรู้ทั่วถึงธรรมแห่งปัญหาหนึ่งๆ แล้วพึงปฏิบัติธรรมอัน
สมควรแก่ธรรมไซร้การกบุคคลนั้น ก็พึงถึงฝั่งโน้นแห่งชราและมรณะ
ได้แน่แท้เพราะธรรมเหล่านี้ เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่การถึงฝั่งโน้น
เพราะเหตุนั้น คำว่าปรายนะ จึงเป็นชื่อแห่งธรรมปริยายนี้ ฯ
[๔๔๒] พราหมณ์มาณพผู้อาราธนาทูลถามปัญหา ๑๖ คนนั้น คืออชิตมาณพ ๑
ติสสเมตเตยยมาณพ ๑ ปุณณกมาณพ ๑เมตตคูมาณพ ๑ โธตกมาณพ ๑
อุปสีวมาณพ ๑ นันทมาณพ ๑เหมกมาณพ ๑ โตเทยยมาณพ ๑
กัปปมาณพ ๑ ชตุกัณณีมาณพผู้เป็นบัณฑิต ๑ ภัทราวุธมาณพ ๑ อุทย
มาณพ ๑โปสาลพราหมณ์มาณพ ๑ โมฆราชมาณพผู้มีปัญญา ๑ปิงคิย
มาณพผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ๑ พราหมณ์มาณพทั้ง ๑๖คนนี้ ได้เข้าไป
เฝ้าพระพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ทรงมีจรณะอันสมบูรณ์ พราหมณ์
มาณพทั้ง ๑๖ คน ได้เข้าไปเฝ้าทูลถามปัญหาอันละเอียด กะพระพุทธเจ้า
ผู้ประเสริฐสุดพระพุทธเจ้าผู้เป็นมุนีได้ตรัสพยากรณ์ปัญหาที่พราหมณ์
มาณพเหล่านั้นทูลถามแล้วตามจริงแท้ ทรงให้พราหมณ์มาณพทั้งหลาย
ยินดีแล้ว ด้วยการตรัสพยากรณ์ปัญหาทุกๆ ปัญหาพราหมณ์มาณพ
ทั้ง ๑๖ คนเหล่านั้น อันพระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์ พระอาทิตย์ผู้มีจักษุ
ให้ยินดีแล้ว ได้ประพฤติพรหมจรรย์ในสำนักของพระพุทธเจ้า ผู้มีพระ
ปัญญาอันประเสริฐ เนื้อความแห่งปัญหาหนึ่งๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง