พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/52/50
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
วิจิตร มีปฏิภาณดีงาม เป็นวุฑฒบุคคล และเป็นพระอรหันต์ จึงควรที่พระเจ้ามุณฑะจะเสด็จ
เข้าไปหา เพื่อบางทีได้ทรงสดับธรรมของท่านแล้ว พึงทรงละลูกศร คือ ความโศกได้ ลำดับนั้น
โสการักขะมหาอำมาตย์จึงเข้าไปเฝ้าพระเจ้ามุณฑะ แล้วกราบทูลว่า ขอเดชะ ท่านพระนารทะรูปนี้
อยู่ที่กุกกุฏารามใกล้พระนครปาตลีบุตร ก็กิตติศัพท์อันงามของท่านพระนารทะขจรไปแล้วอย่างนี้
ว่า เป็นบัณฑิต ฉลาด มีปัญญา เป็นพหูสูต มีถ้อยคำอันวิจิตร มีปฏิภาณดีงาม เป็นวุฑฒ
บุคคล และเป็นพระอรหันต์ ก็ถ้าพระองค์จะพึงเสด็จเข้าไปหาท่านแล้วไซร้ บางทีได้ทรงสดับ
ธรรมของท่านแล้ว พึงทรงละลูกศร คือ ความโศกได้ พระเจ้ามุณฑะจึงตรัสสั่งว่า ท่าน
โสการักขะ ถ้าเช่นนั้น ท่านจงไปบอกท่านพระนารทะให้ทราบ เพราะกษัตริย์เช่นเราพึงเข้าใจว่า
สมณะหรือพราหมณ์ที่อยู่ในราชอาณาจักร ยังไม่ได้แจ้งให้ทราบก่อนจะพึงเข้าไปหาได้อย่างไร
โสการักขะมหาอำมาตย์รับสนองพระบรมราชโองการแล้ว ได้เข้าไปหาท่านพระนารทะ อภิวาท
แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว กล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พระนางภัททาราชเทวี
ผู้เป็นที่รัก ที่พอพระทัยแห่งพระเจ้ามุณฑะนี้ ได้ทิวงคตแล้ว เมื่อพระนางภัททาราชเทวีผู้เป็นที่รัก
ที่พอพระทัย ได้ทิวงคตไปแล้ว พระราชาก็ไม่สรงสนาน ไม่ทรงแต่งพระองค์ ไม่เสวย ไม่ทรง
ประกอบพระราชกรณียกิจทรงซบเซาอยู่ที่พระศพแห่งพระนางภัททาราชเทวี ตลอดคืน ตลอดวัน
ขอท่านพระนารทะจงแสดงธรรมแก่พระราชา โดยให้พระราชาพึงทรงละลูกศร คือความโศกได้
เพราะได้ทรงสดับธรรมของท่านพระนารทะ ท่านพระนารทะจึงกล่าวว่า ดูกรมหาอำมาตย์ ขอให้
พระราชาทรงทราบเวลาที่ควร ณ บัดนี้ ลำดับนั้นโสการักขะมหาอำมาตย์ลุกจากที่นั่ง อภิวาทท่าน
พระนารทะ ทำประทักษิณเสร็จแล้ว ได้เข้าไปเฝ้าพระเจ้ามุณฑะแล้ว กราบทูลว่า ขอเดชะ
ท่านพระนารทะได้เปิดโอกาสให้เสด็จไปแล้ว บัดนี้ ขอพระองค์จงทรงทราบเวลาที่ควรเถิดพระเจ้าข้า
พระเจ้ามุณฑะตรัสว่า ถ้าเช่นนั้น ท่านจงให้พนักงานเทียมพาหนะที่ดีๆ ไว้ โสการักขะมหา
อำมาตย์ รับสนองพระบรมราชโองการแล้ว ได้ให้พนักงานเทียมพระราชพาหนะที่ดีๆ ไว้เสร็จ
แล้ว จึงกราบทูลว่า ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าได้ให้พนักงานเทียมพระราชพาหนะที่ดีๆ ไว้เสร็จ
แล้ว ขอพระองค์จงทรงทราบเวลาที่ควรเถิดพระเจ้าข้า ลำดับนั้น พระเจ้ามุณฑะ เสด็จขึ้นทรง
พระราชพาหนะที่ดีๆ ไปสู่กุกกุฏาราม เพื่อพบปะกับท่านพระนารทะ ด้วยพระราชานุภาพอย่าง
ใหญ่ยิ่ง เสด็จไปเท่าที่พระราชพาหนะจะไปได้ เสด็จลงจากพระราชพาหนะแล้ว เสด็จพระราช
ดำเนินเข้าไปสู่อาราม เข้าไปหาท่านพระนารทะ ทรงอภิวาทแล้ว ประทับ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วท่านพระนารทะได้กล่าวกะพระเจ้ามุณฑะว่า ขอถวายพระพร ฐานะ ๕ประการนี้ อัน