พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/59/155 156 157 158
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เป็นปัจจัย มีอุปธิเป็นการณ์ ย่อมมี ย่อมเป็น เกิดขึ้น เกิดพร้อม บังเกิด ปรากฎ
เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ทุกข์ทั้งหลาย มีอุปธิเป็นเหตุย่อมเกิดขึ้น.
[๑๕๕] คำว่า เยเกจิ ในอุเทศว่า "เยเกจิ โลกสฺมึ อเนกรูปา" ดังนี้ ความว่า
ทั้งปวงโดยกำหนดทั้งปวง ทั้งปวงโดยประการทั้งปวง ไม่เหลือ มีส่วนไม่เหลือ คำว่า เยเกจิ
นี้เป็นเครื่องกล่าวรวมหมด. คำว่า โลกสฺมึ ความว่าในอบายโลก ในมนุษยโลก ในเทวโลก
ในขันธโลก ในธาตุโลก ในอายตนโลก. คำว่า อเนกรูปา ความว่า ทุกข์ทั้งหลายมีอย่างเป็น
อเนก มีประการต่างๆ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ทุกข์ทั้งหลายมีชนิดเป็นอันมาก อย่างใดอย่างหนึ่ง
ในโลก.
เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า
ท่านได้ถามเหตุแห่งทุกข์กะเราแล้ว. เรารู้อยู่อย่างไร ก็จะ
บอกเหตุนั้นแก่ท่าน. ทุกข์ทั้งหลาย มีชนิดเป็นอันมาก
อย่างใดอย่างหนึ่งในโลก มีอุปธิเป็นเหตุ ย่อมเกิดขึ้น.
[๑๕๖] ผู้ใดแล มิใช่ผู้รู้ ย่อมทำอุปธิ ผู้นั้นเป็นคนเขลา ย่อมเข้า
ถึงทุกข์บ่อยๆ. เพราะเหตุนั้น บุคคลผู้รู้อยู่ ไม่พึงทำอุปธิ
เป็นผู้พิจารณาเหตุเกิดแห่งทุกข์.
[๑๕๗] คำว่า โย ในอุเทศว่า "โย เว อวิทฺวา อุปธึ กโรติ" ดังนี้ ความว่า
กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร คฤหัสถ์ บรรพชิต เทวดา หรือ มนุษย์ผู้ใด คือ เช่นใด
ควรอย่างไร ชนิดใด ประการใด ถึงฐานะใด ประกอบด้วยธรรมใด.
คำว่า อวิทฺวา ความว่า ไม่รู้ คือ ไปแล้วในอวิชชา ไม่มีญาณ ไม่มีปัญญาแจ่มแจ้ง
มีปัญญาทราม.
คำว่า อุปธึ กโรติ ความว่า กระทำซึ่งตัณหูปธิ ... อุปธิ คือ หมวดวิญญาณ ๖ คือ
ให้เกิด ให้เกิดพร้อม ให้บังเกิด เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า มิใช่ผู้รู้กระทำอุปธิ.
[๑๕๘] คำว่า ปุนปฺปุนํ ทุกฺขมุเปติ ในอุเทศว่า "ปุนปฺปุนํ ทุกฺขมุเปติ มนฺโท"
ดังนี้ ความว่า ย่อมถึง คือ เข้าถึง เข้าไปถึง ย่อมจับ ย่อมลูบคลำ ย่อมยึดมั่น ซึ่งชาติทุกข์
ชราทุกข์ พยาธิทุกข์ มรณทุกข์ ทุกข์คือ ความโศก ความร่ำไร ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ
ความคับแค้นใจบ่อยๆ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เข้าถึงทุกข์บ่อยๆ.