พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/6/8
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
ผู้ไปแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายบูชาแล้ว ขอความสวัสดี
จงมีแก่สัตว์เหล่านี้ ภูตเหล่าใดประชุมกันแล้วในประเทศก็ดี หรือ
ภุมมเทวดาเหล่าใดประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี เราทั้งหลายจงนมัสการ
พระธรรม อันไปแล้วอย่างนั้น อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความ
สวัสดีจงมีแก่สัตว์เหล่านี้ ภูตเหล่าใดประชุมกันแล้วในประเทศนี้ก็ดี หรือ
ภุมมเทวดาเหล่าใดประชุมกันแล้วในอากาศก็ดี เราทั้งหลาย จงนมัสการ
พระสงฆ์ผู้ไปแล้วอย่างนั้น ผู้อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสวัสดี
จงมีแก่สัตว์เหล่านี้ ฯ
จบรัตนสูตร ฯ
ติโรกุฑฑกัณฑ์ในขุททกปาฐะ
[๘]
[ถ้าว่าปราชญ์พึงหาความสุขอันไพบูลย์เพราะสละความสุขพอ ประมาณไซร้
เมื่อปราชญ์เห็นความสุขอันไพบูลย์ พึงสละความสุขพอประมาณเสีย]
เปรตทั้งหลายมาสู่เรือนของตน ยืนอยู่ภายนอกฝาเรือน ทาง ๔ แพร่ง
ทาง๓ แพร่ง และใกล้บานประตู เมื่อข้าว น้ำ ของเคี้ยวและของบริโภค
เป็นอันมาก อันญาติทั้งหลายตั้งไว้แล้วญาติไรๆ ของเปรตเหล่านั้น
ระลึกไม่ได้ เพราะกรรมของสัตว์เหล่านั้นเป็นปัจจัย ชนเหล่าใดเป็นผู้
อนุเคราะห์ ชนเหล่านั้นย่อมให้น้ำและโภชนะอันสะอาดประณีตอันเป็น
ของควรโดยกาล ด้วยอุทิศเจตนาอย่างนี้ว่า ขอทานนี้จงสำเร็จแก่ญาติ
ทั้งหลาย ขอญาติทั้งหลายจงเป็นผู้ถึงความสุขเถิดและญาติผู้ละโลกนี้
ไปแล้วเหล่านั้น มาประชุมพร้อมกันแล้วในที่นั้น เมื่อมีข้าวและน้ำเป็น
อันมาก ย่อมอนุโมทนาโดยเคารพว่า เราทั้งหลายได้สมบัติเช่นนี้ เพราะ
เหตุแห่งญาติเหล่าใด ขอญาติเหล่านั้นของพวกเราจงเป็นอยู่นานเถิด
บูชาอันทายกทั้งหลายทำแล้วแก่เราทั้งหลาย และทายกทั้งหลายก็หาไร้ผล
ไม่ ในเปรตวิสัยนั้น ไม่มีกสิกรรม ไม่มีโครักขกรรม ไม่มีพาณิชยกรรม