พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/62/164
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
แห่งโภคะกระทบเข้า ของคนที่ถูกความฉิบหายเพราะโรคกระทบเข้า หรือของคนที่ถูกความฉิบหาย
แห่งศีลกระทบเข้า ของคนที่ถูกความฉิบหายแห่งทิฏฐิกระทบเข้า ของคนที่ประจวบกับความ
ฉิบหายอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือของคนที่ถูกเหตุแห่งทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งกระทบเข้า ชื่อว่า
ความโศก.
ความร้องไห้ ความรำพัน กิริยาที่ร้องไห้ กิริยาที่รำพัน ความเป็นผู้ร้องไห้ ความเป็น
ผู้รำพัน ความพูดถึง ความพูดเพ้อ ความพูดบ่อยๆ ความร่ำไร กิริยาที่ร่ำไร ความเป็นผู้ร่ำไร
ของคนที่ถูกความฉิบหายแห่งญาติกระทบเข้า ... หรือของคนที่ถูกเหตุแห่งทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่ง
กระทบเข้า ชื่อว่า ปริเทวะ.
คำว่า ธีรชนทั้งหลายย่อมข้ามโอฆะ ชาติ ชรา โสกะและปริเทวะได้ อย่างไรหนอ
ความว่า ธีรชนทั้งหลาย ย่อมข้าม คือ ข้ามขึ้น ข้ามพ้น ก้าวล่วง เป็นไปล่วงซึ่งโอฆะ ชาติ
ชรา โสกะและปริเทวะได้อย่างไร เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ธีรชนทั้งหลาย ย่อมข้ามโอฆะ ชาติ
ชรา โสกะและปริเทวะได้อย่างไรหนอ?
[๑๖๔] คำว่า ตํ ในอุเทศว่า "ตมฺเม มุนี สาธุ วิยากโรหิ" ดังนี้ ความว่า
ข้าพระองค์ย่อมทูลถาม ทูลวิงวอน ทูลเชื้อเชิญ ทูลให้ทรงประสาท. ญาณ ปัญญา
ความรู้ทั่ว ฯลฯ ความไม่หลง ความเลือกเฟ้นธรรม สัมมาทิฏฐิ ท่านกล่าวว่า โมนะ ในคำว่า
มุนี. พระผู้มีพระภาคทรงประกอบด้วยญาณนั้น จึงเป็นพระมุนี คือ ถึงความเป็นพระมุนี.
โมเนยยะ (ความเป็นมุนี) ๓ ประการ คือ กายโมเนยยะ วจีโมเนยยะ มโนโมเนยยะ.
กายโมเนยยะ เป็นไฉน? การละกายทุจริต ๓ อย่าง เป็นกายโมเนยยะ กายสุจริต ๓ อย่าง
เป็นกายโมเนยยะ ญาณมีกายเป็นอารมณ์ เป็นกายโมเนยยะ ความกำหนดรู้กาย เป็นกายโมเนยยะ
มรรคอันสหรคตด้วยความกำหนดรู้ เป็นกายโมเนยยะ ความละฉันทราคะในกาย เป็นกาย
โมเนยยะ ความดับกายสังขาร ความเข้าจตุตถฌาน เป็นกายโมเนยยะ นี้ชื่อว่า กายโมเนยยะ.
วจีโมเนยยะ เป็นไฉน? การละวจีทุจริต ๔ อย่าง เป็นวจีโมเนยยะ วจีสุจริต ๔ อย่าง
เป็นวจีโมเนยยะ ญาณมีวาจาเป็นอารมณ์ เป็นวจีโมเนยยะ การกำหนดรู้วาจา เป็นวจีโมเนยยะ
มรรคอันสหรคตด้วยการกำหนดรู้ เป็นวจีโมเนยยะ การละฉันทราคะในวาจา เป็นวจีโมเนยยะ
ความดับวจีสังขาร ความเข้าทุติยฌาน เป็นวจีโมเนยยะ นี้ชื่อว่า วจีโมเนยยะ.