พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/70/295 296

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เล่ม 20
หน้า 70
กรรมที่ไม่เป็นวินัยจึงไม่เป็นไป กรรมฝ่ายธรรมจึงรุ่งเรืองกรรมฝ่ายอธรรมจึงไม่รุ่งเรือง กรรมที่ เป็นวินัยจึงรุ่งเรือง กรรมที่ไม่เป็นวินัยจึงไม่รุ่งเรือง ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริษัท ๒ จำพวกนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาบริษัท ๒ จำพวกนี้ บริษัทที่เรียบร้อยเป็นเลิศ ฯ
[๒๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริษัท ๒ จำพวกนี้ ๒ จำพวกเป็นไฉน คือ บริษัทที่ไร้ ธรรม ๑ บริษัทที่ประกอบด้วยธรรม ๑ ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลายบริษัท ๒ จำพวกนี้แล ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย บรรดาบริษัท ๒ จำพวกนี้ บริษัทที่ประกอบด้วยธรรมเป็นเลิศ ฯ
[๒๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริษัท ๒ จำพวกนี้ ๒ จำพวกเป็นไฉน คือ อธรรมวาที บริษัท ๑ ธรรมวาทีบริษัท ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อธรรมวาทีบริษัทเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในบริษัทใดในธรรมวินัยนี้ ภิกษุทั้งหลายยึดถืออธิกรณ์ เป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมก็ตาม ภิกษุ เหล่านั้น ครั้นยึดถืออธิกรณ์นั้นแล้ว ไม่ยังกันและกันให้ยินยอม ไม่เข้าถึงความตกลงกัน ไม่ ยังกันและกันให้เพ่งโทษตน และไม่เข้าถึงการเพ่งโทษตน ภิกษุเหล่านั้นมีการไม่ตกลงกัน เป็นกำลัง มีการไม่เพ่งโทษตนเป็นกำลัง คิดไม่สละคืน ยึดมั่นอธิกรณ์นั้นแหละด้วยกำลัง ด้วยรูปคลำ แล้วกล่าวว่า "คำนี้เท่านั้นจริง คำอื่นเปล่า" ดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริษัทนี้ เรียกว่า "อธรรมวาทีบริษัท" ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมวาทีบริษัทเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในบริษัทใดใน ธรรมวินัยนี้ ภิกษุทั้งหลายยึดถืออธิกรณ์ เป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมก็ตาม ภิกษุเหล่านั้นครั้นยึดถือ อธิกรณ์นั้นแล้ว ยังกันและกันให้ยินยอม เข้าถึงความตกลงกัน ยังกันและกันให้เพ่งโทษ เข้าถึง การเพ่งโทษตน ภิกษุเหล่านั้นมีความตกลงกันเป็นกำลัง มีการเพ่งโทษตนเป็นกำลัง คิดสละคืน ไม่ยึดมั่นอธิกรณ์นั้นด้วยกำลัง ด้วยการลูบคลำ แล้วกล่าวว่า "คำนี้เท่านั้นจริง คำอื่นเปล่า" ดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริษัทนี้เรียกว่า "ธรรมวาทีบริษัท" ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริษัท ๒ จำพวกนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาบริษัท ๒ จำพวกนี้ ธรรมวาทีบริษัทเป็นเลิศ ฯ จบปริสวรรคที่ ๕ จบปฐมปัณณาสก์ ____________________