พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/74/114 115      
      สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
      
     
 
    
        
          
            เห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติ  กำลังอุปบัติ  เลว  ประณีตมีผิวพรรณดี  มีผิวพรรณทราม  ได้ดี  ตกยาก
ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์  ล่วงจักษุของมนุษย์  ย่อมทราบชัดหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม  เช่นนี้
	(๑๐)  ย่อมเข้าถึงเจโตวิมุตติ  ปัญญาวิมุตติ  อันหาอาสวะมิได้  เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป
ทำให้แจ้งเพราะรู้ยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบันอยู่  ฯ
	ดูกรพราหมณ์  เหล่านี้แล  ธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส  ๑๐  ประการ  อันพระผู้
มีพระภาคพระองค์นั้น  ผู้ทรงรู้  ทรงเห็น  เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธตรัสบอกไว้  บรรดาพวก
อาตมภาพ  รูปใดมีธรรมเหล่านี้  อาตมภาพทั้งหลายย่อมสักการะ  เคารพ  นับถือ  บูชารูปนั้น
ครั้นสักการะ  เคารพแล้ว  ย่อมเข้าไปอาศัยอยู่ในบัดนี้  ฯ
 [๑๑๔]  เมื่อท่านพระอานนท์กล่าวแล้วอย่างนี้  วัสสการพราหมณ์มหาอำมาตย์แห่งมคธรัฐ
ได้เรียกอุปนันทะเสนาบดีมาพูดว่า  ดูกรเสนาบดี  ท่านจะ  สำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน  ที่พระคุณเจ้า
เหล่านี้  สักการะธรรมที่ควรสักการะ  เคารพธรรมที่ควรเคารพ  นับถือธรรมที่ควรนับถือ  บูชาธรรม
ที่ควรบูชาอยู่อย่างนี้ตกลงพระคุณเจ้าเหล่านี้  ย่อมสักการะธรรมที่ควรสักการะ  เคารพธรรมที่
ควรเคารพนับถือธรรมที่ควรนับถือ  บูชาธรรมที่ควรบูชา  ก็ในเมื่อพระคุณเจ้าเหล่านั้นจะไม่พึง
สักการะ  เคารพ  นับถือ  บูชาสิ่งนี้  พระคุณเจ้าเหล่านั้น  จะพึงสักการะเคารพ  นับถือ  บูชาสิ่งไร
แล้วจะเข้าไปอาศัยสิ่งไรอยู่ได้เล่า  ฯ
 [๑๑๕]  ต่อนั้น  วัสสการพราหมณ์มหาอำมาตย์แห่งมคธรัฐ  ถามท่าน  พระอานนท์ดังนี้ว่า
ก็เวลานี้  พระอานนท์อยู่ที่ไหน  ฯ
	อา.  ดูกรพราหมณ์  เวลานี้  อาตมภาพอยู่ที่พระวิหารเวฬุวัน  ฯ
	ว.  ข้าแต่พระอานนท์ผู้เจริญ  ก็พระวิหารเวฬุวัน  เป็นที่รื่นรมย์  เงียบเสียงและไม่อึกทึก
ครึกโครม  มีลมพัดเย็นสบาย  เป็นที่พักผ่อนของมนุษย์  สมควรแก่  การหลีกออกเร้นอยู่หรือ  ฯ
	อา.  ดูกรพราหมณ์  แน่นอน  พระวิหารเวฬุวัน  จะเป็นที่รื่นรมย์  เงียบเสียง  และไม่
อึกทึกครึกโครม  มีลมพัดเย็นสบาย  เป็นที่พักผ่อนของมนุษย์  สมควรแก่การหลีกออกเร้นอยู่
ก็ด้วยมีผู้รักษาคุ้มครองเช่นท่าน  ฯ