พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/76/118 119      
      สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
      
     
 
    
        
          
            เพราะสงบ  วิตกและวิจารไม่มีวิตก  ไม่มีวิจาร  มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่  เป็นผู้วางเฉย
เพราะหน่ายปีติ  มีสติสัมปชัญญะอยู่  และเสวยสุขด้วยนามกาย  เข้าตติยฌานที่พระอริยะเรียก
เธอ  ได้ว่า  ผู้วางเฉย  มีสติอยู่เป็นสุขอยู่  เข้าจตุตถฌาน  อันไม่มีทุกข์  ไม่มีสุขเพราะละสุข
ละทุกข์  และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ  ได้  มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่  ดูกรพราหมณ์
พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นทรงสรรเสริญฌานเช่นนี้  แล  ฯ
 [๑๑๘]  ว.  ข้าแต่พระอานนท์ผู้เจริญ  เป็นอันว่า  พระโคดมผู้เจริญ พระองค์นั้น  ทรงติเตียน
ฌานที่ควรติเตียน  ทรงสรรเสริญฌานที่ควรสรรเสริญเอาละ  กระผมมีกิจมาก  มีกรณียะมาก
จะขอลาไปในบัดนี้  ฯ
	อา.  ดูกรพราหมณ์  ขอท่านโปรดสำคัญกาลอันควรในบัดนี้เถิด  ต่อนั้น  วัสสการพราหมณ์
มหาอำมาตย์แห่งมคธรัฐ  ชื่นชมยินดีภาษิตของท่านพระอานนท์แล้ว  ลุกจากอาสนะหลีกไป  ฯ
 [๑๑๙]  ครั้งนั้นแล  เมื่อวัสสการพราหมณ์มหาอำมาตย์แห่งมคธรัฐ  หลีกไปแล้วไม่นาน
พราหมณ์โคปกะ  โมคคัลลานะ  ได้กล่าวกะท่านพระอานนท์ดังนี้ว่า  ปัญหาของกระผม  ซึ่งกระผม
ได้ถามพระอานนท์ผู้เจริญนั้น  พระคุณเจ้ายังมิได้พยากรณ์แก่กระผมเลย  ฯ
	ท่านพระอานนท์กล่าวว่า  ดูกรพราหมณ์  เราได้กล่าวแก่ท่านแล้วมิใช่หรือว่า ดูกรพราหมณ์
ไม่มีเลยแม้สักรูปหนึ่งผู้ถึงพร้อมด้วยธรรมทุกๆ  ข้อ  และทุกๆ  ประการ  ที่พระผู้มีพระภาค
พระองค์นั้น  ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธทรงถึง  พร้อมแล้ว  เพราะพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
ทรงให้มรรคที่ยังไม่อุบัติได้อุบัติที่ยังไม่เกิดได้เกิด  ตรัสบอกมรรคที่ยังไม่มีใครบอก  ทรงทราบ
ชัดมรรค  ทรงรู้แจ้งมรรค  และทรงฉลาดในมรรค  ส่วนเหล่าสาวกในบัดนี้  เป็นผู้ดำเนินตามมรรค
จึงถึงพร้อมในภายหลังอยู่  ฯ
	      จบ  โคปกโมคคัลลานสูตร  ที่  ๘
	    ________________________________________