พระสุตตันตปิฎกไทย: 9/85/148 149
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
ท่านโคดม ข้อที่พวกศากยะเป็นแต่พวกคฤหบดีแท้ๆ แต่ไม่สักการะพวกพราหมณ์
ไม่เคารพพวกพราหมณ์ ไม่นับถือพวกพราหมณ์ ไม่บูชาพวกพราหมณ์ ไม่อ่อนน้อมพวกพราหมณ์
นี้ไม่เหมาะไม่สมควรเลย.
อัมพัฏฐมาณพกดพวกศากยะว่า เป็นแต่พวกคฤหบดีแท้ๆ นี้เป็นครั้งที่สาม ด้วยประการ
ฉะนี้.
[๑๔๘] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงพระดำริเช่นนี้ว่า อัมพัฏฐมาณพผู้นี้ กล่าว
เหยียบย่ำพวกศากยะอย่างหนัก โดยเรียกว่า เป็นแต่พวกคฤหบดีแท้ๆ ถ้ากระไร เราจะพึง
ถามถึงโคตรเธอดูบ้าง
แล้วพระผู้มีพระภาค ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้กับอัมพัฏฐมาณพว่า
อัมพัฏฐะ เธอมีโคตรว่าอย่างไร?
กัณหายนโคตร ท่านโคดม.
อัมพัฏฐะ ก็เธอระลึกถึงโคตรเก่าแก่อันเป็นของมารดาบิดาดูเถิด พวกศากยะเป็นลูกเจ้า
เธอเป็นลูกนางทาสีของพวกศากยะ ก็พวกศากยะเขาพากันอ้างถึงพระเจ้าอุกกากราชว่าเป็น
บรรพบุรุษ.
ว่าด้วยศากยวงศ์
[๑๔๙] อัมพัฏฐะ เรื่องเคยมีมาแล้ว พระเจ้าอุกกากราชทรงพระประสงค์จะพระราชทาน
สมบัติให้แก่พระโอรสของพระมเหสีผู้ที่ทรงรักใคร่โปรดปราน จึงทรงรับสั่งให้พระเชฏฐกุมาร
คือพระอุกกามุขราชกุมาร พระกรกัณฑุราชกุมาร พระหัตถินีกราชกุมาร และพระสีนิปุระราชกุมาร
ออกจากพระราชอาณาเขต พระกุมารเหล่านั้น เสด็จออกจากพระราชอาณาเขตแล้ว จึงไปตั้งสำนัก
อาศัยอยู่ ณ ราวป่าไม้สากะใหญ่ริมฝั่งสระโปกขรณีข้างภูเขาหิมพานต์ พระราชกุมารเหล่านั้น
ทรงสำเร็จการอยู่ร่วมกับพวกพระภคินีของพระองค์เอง เพราะกลัวพระชาติจะระคนปนกัน.
อัมพัฏฐะ ต่อมาพระเจ้าอุกกากราชตรัสถามหมู่อำมาตย์ราชบริษัทว่า บัดนี้พวกกุมาร
อยู่กัน ณ ที่ไหน?.
พวกอำมาตย์กราบทูลว่า ขอเดชะ มีราวป่าไม้สากะใหญ่อยู่ริมฝั่งสระโบกขรณีข้างภูเขา
หิมพานต์ บัดนี้ พระราชกุมารทั้งหลายอยู่ ณ ที่นั้น พระราชกุมารเหล่านั้นทรงสำเร็จการอยู่
ร่วมกับพวกพระภคินีของพระองค์เอง เพราะกลัวพระชาติจะระคนปนกัน.